Economics

ไทยยังเนื้อหอม! 11 เดือนต่างชาติหอบเงินลงทุนทะลุแสนล้าน ‘ญี่ปุ่น’ อันดับหนึ่ง

ไทยยังเนื้อหอม! 11 เดือนต่างชาติหอบเงินลงทุนไทย 112,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 47,884 ล้านบาท “ญี่ปุ่น” ขึ้นแท่นลงทุนสูงสุด 39,000 ล้านบาท “จีน” 22,677 ล้านบาท “สิงคโปร์” 11,999 ล้านบาท

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวว่า ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 โดยตลอด 11 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.) อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 530 ราย แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน198 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 332 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 112,466 ล้านบาทจ้างงานคนไทย 5,008 คน

ลงทุนไทย

ทั้งนี้ ต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. ญี่ปุ่น 137 ราย (26%) เงินลงทุน 39,000 ล้านบาท
  2. สิงคโปร์ 85 ราย (16%) เงินลงทุน 11,999 ล้านบาท
  3. สหรัฐอเมริกา 70 ราย (13%) เงินลงทุน 3,343 ล้านบาท
  4. ฮ่องกง 38 ราย (7%) เงินลงทุน 8,451 ล้านบาท
  5. จีน 25 ราย (5%) เงินลงทุน 22,677 ล้านบาท

ลงทุนไทย

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 (ม.ค.-พ.ย.) พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 30 ราย คิดเป็น 6% (ปี 2565 อนุญาต 530 ราย ปี 2564 อนุญาต 500 ราย) เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 47,884 ล้านบาท คิดเป็น 74% (ปี 2565 ลงทุน 112,466 ล้านบาท ปี 2564 ลงทุน 64,582 ล้านบาท) และจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 5 ราย คิดเป็น 0.1% (ปี 2565 จ้างงาน 5,008 คน ปี 2564 จ้างงาน 5,003 คน) โดยปี 2564 ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และ สหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับปี 2565

อย่างไรก็ตาม คาดว่า 1 เดือนสุดท้ายของปี 2565 จะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่อนคลายให้มีการเปิดประเทศ และเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo