Economics

9 เดือนต่างชาติแห่ลงทุนไทยจ่อทะลุแสนล้านบาท ‘ญี่ปุ่น’ นำโด่ง

“กระทรวงพาณิชย์” เผย 9 เดือนต่างชาติแห่ลงทุนไทย 99,369 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 4,041 คน “ญี่ปุ่น-สิงคโปร์-สหรัฐ” นำโด่งลงทุนสูงสุด

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ไตรมาสแรก (ม.ค.-ก.ย.) ของปีนี้มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 436 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 164 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 272 ราย เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 99,369 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 4,041 คน

นักลงทุนต่างชาติ 1410651

ทั้งนี้ ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. ญี่ปุ่น 110 ราย (25%) เงินลงทุน 34,972 ล้านบาท
  2. สิงคโปร์ 71 ราย (16%) เงินลงทุน 11,425 ล้านบาท
  3. สหรัฐอเมริกา 61 ราย (14%) เงินลงทุน 3,305 ล้านบาท
  4. ฮ่องกง 28 ราย (6%) เงินลงทุน 7,788 ล้านบาท
  5. จีน 21 ราย (5%) เงินลงทุน 20,754 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 (ม.ค.-ก.ย.) พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 47 ราย คิดเป็น 12% (ปี 65 อนุญาต 436 ราย ปี 2564 อนุญาต 389 ราย) เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 44,781 ล้านบาท คิดเป็น 82% (ปี 65 ลงทุน 99,369 ล้านบาท ปี 64 ลงทุน 54,588 ล้านบาท) และจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 490 ราย คิดเป็น 14% (ปี 65 จ้างงาน 4,041 คน ปี 64 จ้างงาน 3,551 คน) โดยปี 2564 ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับปี 65

นายสินิตย์ เลิศไกร

โดยธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ และสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ อาทิ

  • บริการออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้ง และตรวจสอบระบบกักเก็บพลังงาน สำหรับโครงการโรงผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานสำหรับสนามบินอู่ตะเภา
  • บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย
  • บริการขุดลอก ถมทะเลและก่อสร้างม่านดักตะกอนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด
  • บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Electric Vehicle Charging Station) สำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
  • บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การให้คำปรึกษา เชิงเทคนิคแบบครบวงจรในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ การช่วยเหลือด้านการออกแบบ การพัฒนา และทดสอบระบบ เป็นต้น
  • บริการให้ใช้แพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ สำหรับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า และสั่งซื้อสินค้าและบริการ
  • บริการพัฒนาและให้บริการซอฟต์แวร์ด้านวิเคราะห์และเชื่อมโยงเพื่อบริหารจัดการข้อมูล Big Data, Data Analytics

export land bridge ๒๐๐๙๒๗ 0

สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ 3 ไตรมาส (ม.ค.-ก.ย.) ปี 65 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 80 ราย คิดเป็น 18% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC กว่า 40,555 ล้านบาท คิดเป็น 41% ของเงินลงทุนทั้งหมด ทั้งนี้ เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 34 ราย ลงทุน 23,256 ล้านบาท สิงคโปร์ 8 ราย ลงทุน 2,006 ล้านบาท และ สหรัฐอเมริกา 6 ราย ลงทุน 1,075 ล้านบาท ธุรกิจที่ลงทุน อาทิ

  1. บริการโทรคมนาคมเพื่อสาธารณะ (Public Switched Telecommunication Service) ภายในประเทศ ประเภทบริการขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
  2. บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การให้คำปรึกษาเชิงเทคนิค และการออกแบบเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องมือ และอุปกรณ์
  3. บริการตรวจสอบและวิเคราะห์สภาพการทำงานของเครื่องจักรชนิดหมุน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Services) ด้วยระบบคลาวด์ (Cloud) และเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ (Sensor Technology) เป็นต้น

รมช.พาณิชย์ คาดว่าอีก 1 ไตรมาสที่เหลือ (ต.ค.-ธ.ค.) ของปี 65 จะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจโดยให้มีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ และเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo