นายกฯ สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ และลูกจ้างอาชีพกลางคืน พิจารณา 3 หลักเกณฑ์เยียวยา
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้เร่งหามาตรการเยียวยา ช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ และลูกจ้างอาชีพกลางคืน ที่ได้รับผลกระทบจากการสถานการณ์โควิด-19
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน สรุปผลการเจรจากับตัวแทนสมาคมเครือข่ายนักร้อง นักแสดง นักดนตรี และผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ คลับ บาร์ คาราโอเกะ
เบื้องต้น กระทรวงแรงงาน และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้พิจารณาวงเงิน และหลักเกณฑ์การเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งผู้ประกอบการและลูกจ้าง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มนายจ้าง สถานประกอบการ ซึ่งส่วนมากอยู่ในส่วนธุรกิจเอสเอ็มอี รัฐบาลจะให้นโยบายเยียวยารายละ 3,000 บาท ตามจำนวนลูกจ้างต่อเดือน
2. กลุ่มลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 อยู่ในธุรกิจ ผับ บาร์ ทั้งเด็กเสิร์ฟ พ่อครัว เสมียนบัญชี จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 รัฐบาลจะให้ประกันสังคมเยียวยาว่างงานจากเหตุสุดวิสัยจ่าย 50% และส่วนที่ 2 หากไม่เพียงพอในการใช้จ่าย จะนำส่วนของเงินกู้สภาพัฒน์ฯ โดยประมาณการตัวเลขเบื้องต้นไว้ที่ 5,000 บาท
หากอยู่ในระบบประกันสังคมจะได้ 2 ส่วน โดยให้ประกันสังคมช่วย 50% อีกส่วนขอเงินกู้จากรัฐบาล
3. กลุ่มลูกจ้างที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ส่วนใหญ่เป็นศิลปินอิสระ อาจต้องขึ้นทะเบียนตามมาตรา 40 ของประกันสังคม ได้ตรวจสอบตัวเลขในระบบเบื้องต้น มีจำนวนประมาณไม่เกิน 150,000 ราย โดยจะขอให้สมาคม/สมาพันธ์รับรองบุคคลเหล่านี้
รวมทั้งในส่วนผู้ที่เกินอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่เข้าข่ายมาตรา 40 จะประสานให้กระทรวงวัฒนธรรม สำรวจจำนวน เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะนำเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองงบประมาณกระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ฯ และนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ต้องให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนในทุกสาขาอาชีพ ให้ได้รับการดูแล บรรเทาความเดือดร้อน อย่างทั่วถึง และครอบคลุมมากที่สุด โดยได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนต้องทำงานควบคู่กัน เพื่อเร่งพิจารณาหาแนวทา งและมาตรการที่เหมาะสม
ขณะเดียวกันฝ่ายผู้ประกอบการต้องให้ความร่วมมือด้วย โดยเฉพาะการป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดตามมาตรการ COVID Free Setting เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ธุรกิจกลางคืน สุดช้ำ โดนปิด 200 วัน สูญ 1.3 แสนล้าน วอนปลดล็อก เยียวยา ด่วน!
- โพลหนุนยกเลิก ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ’ แต่คง ‘เคอร์ฟิว-ปิดร้านเหล้า’ ป้องกันไวรัสระบาดซ้ำ
- กทม. คลายล็อกเพิ่ม ร้านอาหารดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 5 ทุ่ม เริ่ม 1 ธันวาคมนี้