ธุรกิจกลางคืน ตบเท้าเข้าสภา ยื่นจดหมายถึง ประธานรัฐสภา ขอผ่อนปรน ปลดล็อก เยียวยา 8 ข้อ หลังโดนปิด 200 วัน เสียหายกว่า 1.3 แสนล้าน ปิดกิจการ ตกงาน ขาดสภาพคล่อง
วันนี้ (17 มิถุนายน 2564) สมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิง อาทิ กลุ่มผู้ประกอบการอาชีพธุรกิจบันเทิง ธุรกิจกลางคืน ตัวแทนนักดนตรีกลางคืน ตัวแทนกลุ่มผู้จัดงานอีเวนต์ ตัวแทนอาชีพอิสระ และตัวแทนชมรมคราฟท์เบียร์ เข้ายื่นจดหมายถึง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา หลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากวิกฤติโควิด-19
ทั้งนี้ ได้วอนให้รัฐบาล หาแนวทางการช่วยเหลือ กลุ่มธุรกิจบันเทิโดยเฉพาะคำสั่งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้ต้องตกอยู่ในสภาวะตกงาน และประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ซึ่งการสั่งปิดกิจการผับ บาร์ สถานบริการกลางคืนดังกล่าว สร้างความเสียหายต่อมูลค่ารวมทางเศรษฐกิจกว่า 1.3 แสนล้านบาท และส่งผลให้ธุรกิจต้องปิดกิจการ เกิดปัญหาว่างงาน ตามมาทั้งระบบ
สำหรับข้อเสนอจาก ธุรกิจกลางคืน 8 ข้อ มีดังนี้
1. ยกเลิกคำสั่งปิดสถานบันเทิง แบบเหมารวม โดยให้ปิดเฉพาะสถานประกอบการที่พบผู้ติดเชื้อ หรืออยู่ในพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงเป็นระยะเวลา 14 วัน และให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้กักตัว
2. ข้อให้มีคำสั่งปลดล็อก เพื่อให้ธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิง ได้กลับมาเปิดบริการ และสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ภายในวันที่ 1 กรกฏาคม 2564 โดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของ ศบค.เพื่อรักษามาตรฐานการควบคุมโรค
3. ผ่อนปรนให้สามารถขายแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านค้าได้ เนื่องจากไม่พบข้อมูลบ่งชี้ว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นปัจจัยในการก่อโรค
4. ผ่อนปรนให้มีการจัดมหรสพ โดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่ง ของ ศบค.เพื่อรักษามาตรฐานการควบคุมโรค
5. พิจารณาการจัดสรรฉีดวัคซีน ให้ผู้ประกอบการ ผู้บริการ และ หรือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการโดยเร็ว
6. พิจารณาให้มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการเยียวยา การพักชำระหนี้ และ หรือ การกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางธุรกิจ และรักษาการจ้างงาน จากการปิดธุรกิจชั่วคราว รวมถึงกลุ่มอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้รับโอกาสให้เขาถึงแหล่งการเงินเหล่านี้ พร้อมลดหย่อนภาษี
7. เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ประชาชนในกลุ่มภาคธุรกิจ ที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าร่วมรับฟัง เสนอแนะ พูดคุย ในกระบวนการออกมาตรการ และนโยบายต่าง ๆ
8. เปิดช่องทางการสื่อสาร เพื่อรับฟังความคิดเห็น และความต้องการ จากประชาชนที่เดือดร้อน
การยื่นขอเสนอดังกล่าว เพื่อเรียกร้องแนวทางการช่วยเหลือ กลุ่มอาชีพทุกประเภท ที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจกลางคืน ธุรกิจบันเทิง หลังตลอดช่วง 50 วันที่ผ่านมา หลังการระบาดระลอก 3 ตั้งแต่ ศบค. มีคำสั่งปิดกิจการแบบเหมารวม แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ไม่ได้มีจำนวนลดลง ทำให้สรุปได้ว่า ภาคธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิง ไม่ใช่สาเหตุหลัก ของการระบาดของโรคโควิด-19 แต่กลับได้รับผลกระทบ จากมาตรการของรัฐ
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ประกอบการ ระบุว่า จากการแพร่ระบาด สองระลอกแรก ผู้ประกอบการต้องหยุดกิจการแบบเหมารวม จากนั้นระลอก 3 ก็ถูกสั่งปิดทั่วประเทศ ซึ่งเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนได้ ต้องมีทั้งภาคกลางวัน และกลางคืน อยากให้ความสำคัญคนกลางคืน เท่าเทียมกับคนกลางวันด้วย
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้า พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังรับหนังสือดังกล่าว แทนนายชวน หลีกภัย ว่า ข้อเสนอของผู้ประกอบธุรกิจภาคกลางคืน ในนามสมาพันธ์ธุรกิจกล่งคืนฯ มีผู้ได้รับผลกระทบเป็นล้านชีวิต เช่น ช่วงแรกที่มีการปิดแบบเหมา ทำให้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งมาตรการเยียวยา ที่ไม่ทั่วถึง
สำหรับแนวทางหลังจากนี้ จะดูให้ครอบคลุมว่า ในระยะสั้นมาตรการที่จะไปขับเคลื่อนจะใช้กลไกใด แต่หลัก ๆ คือตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาตอบว่า จะช่วยผู้ประกอบธุรกิจภาคบันเทิงได้อย่างไร
ต่อมาต้องสอบข้อเท็จจริง และหาความจริงในกรรมาธิการ และเสนอญัตติให้สภาช่วยกันระดมสมองให้หาแนวทางแก้ไข ซึ่งตนเองเชื่อว่า พรรครัฐบาล และทุกพรรคจะเห็นด้วย ต่อมาสิ่งที่ต้องช่วยเหลือคือ การช่วยเหลือในระยะยาว ให้ภูมิคุ้มกันในมิติเศรษฐกิจ ทั้งการเข้าถึงแหล่งทุน รวมถึงการพิจารณาตั้งกองทุนช่วยเหลือในระยะยาว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อังกฤษ’ เริ่มคลายล็อกดาวน์ เปิดผับบาร์ เตือน! ไม่ฉีดวัคซีนเสี่ยง ‘โควิดกลายพันธุ์’
- ด่วน! เคาะเพิ่มพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด – ชงศบค.ชุดใหญ่ ‘ปิดผับ-บาร์’ ทั่วประเทศ
- เช็คด่วน! รายชื่อ 41 จังหวัดเสี่ยง ปิดหมด สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อย่างน้อย 14 วัน