Business

อสังหาฯไตรมาส 4 ฟื้นตัวต่อ กานดาฯ ลุยเปิด 3 โครงการมูลค่ารวม 2,200 ล้าน

กานดา พร็อพเพอร์ตี้ เดินหน้าลงทุนรับตลาดอสังหาฯไตรมาส 4 ยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เตรียมเปิด 3 โครงการทาวน์โฮมมูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท

นายหัสกร บุญยัง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางของตลาดที่อยู่อาศัยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 หรืออสังหาฯไตรมาส 4 ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการแข่งขันสูง แต่ละบริษัทยังคงจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย ระบายสต็อกที่มีในมือของแต่ละบริษัทให้ได้มากที่สุด

อสังหาฯไตรมาส 4

ทั้งนี้เนื่องจากผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลเรื่องของเศรษฐกิจในปี 2566 โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งกำลังซื้อและต้นทุนของผู้ประกอบการ รวมถึงเรื่องของเงินอัตราเฟ้อที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น เรื่องของความไม่แน่นอนของการเมืองไทย และความขัดแย้งในต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อมั่นว่ากำลังซื้อที่ชะลอการตัดสินใจตั้งแต่ช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มทยอยฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ทำให้คนทำงานในภาคบริการโดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวได้ทยอยกลับมามีงานทำ และเริ่มมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น

messageImage 1659147630508

ขณะเดียวกันตลาดอสังหาฯไตรมาส 4 ปี 2565 ยังมีปัจจัยที่สนับสนุนให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ประกอบด้วย

  • มาตรการส่งเสริมการซื้อที่อยู่อาศัยของรัฐบาล ที่ช่วยลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ จาก 2% เหลือ 0.01% และการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับผู้ซื้อที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์ภายในสิ้นปี 2565 นี้
  • การแข่งขันที่รุนแรงของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องการจะเร่งการขาย และระบายสต๊อกในช่วงปลายปี เอื้อประโยชน์ให้ผู้ซื้อมีโอกาสซื้อที่อยู่อาศัยในราคาและโปรโมชั่นที่ดีที่สุด ก่อนการปรับขึ้นราคาจากต้นทุนที่ดินและวัสดุก่อสร้าง ที่ปรับราคาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
  • ดอกเบี้ยที่ภาครัฐยังคงพยายามตรึงไว้ โดยมีผลให้ธนาคารของรัฐและธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่หลายแห่งประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จนถึงสินปี 2565 เมื่อเทียบกับต่างประเทศดอกเบี้ยนโยบายของไทยถือว่ามีการปรับขึ้นน้อยมาก ซึ่งปัจจุบันก็ยังถือว่าเป็นจุดที่ดอกเบี้ยต่ำอยู่สำหรับผู้บริโภค แม้จะมีการทยอยปรับขึ้นมาที่ 1% แล้วก็ตาม

LINE ALBUM ภายในคลอง 2 220926 17

สำหรับในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 บริษัทจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการ ภายในพฤศจิกายนนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมทั้งหมด มูลค่ารวม 2,200 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. ไอลีฟ ไพร์ม ลำลูกกา คลอง 2 จำนวน 157 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท

2. ไอลีฟ ไพร์ม 2 ประชาอุทิศ 90 จำนวน 255 ยูนิต มูลค่า 600 ล้านบาท

3. ไอลีฟ พราวด์ พระราม 2 กม. 14 จำนวน 449 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท

I LEAF PRIME LK2 15 0 edit

นายหัสกร กล่าวว่า โครงการที่จะเปิดตัวล่าสุด คือ ไอลีฟ ไพร์ม ลำลูกกา คลอง 2 ถือเป็นโครงการไฮไลต์ของไตรมาสสุดท้าย โดยเป็นทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่ด้วยแบบบ้านสไตล์ English Garden มีขนาดที่ดิน 25 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย165 ตารางเมตร เทียบเท่าบ้านเดี่ยว มี 4 ห้องนอน และมีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง และออกแบบให้มีห้องนอนชั้นล่างรองรับผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีสวนหลังบ้าน ทำให้รู้สึกสดชื่น สบายตา อากาศปลอดโปร่ง ถ่ายเทสะดวก ภายในโครงการมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ สนามสำหรับออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น โครงการตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าคูคต ไม่เกิน 10 นาที ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.59 ล้านบาท

I LEAF PRIME LK2 2 edit

ส่วนผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนของปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทประกาศเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Kanda Change เน้นตอบโจทย์ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มทำเลในการพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามียอดขายจำนวน 2,200 ล้านบาท เกินกว่าเป้ายอดขาย 9 เดือนที่ตั้งไว้ 2,180 ล้านบาทเล็กน้อย ขณะที่เป้ายอดขายทั้งปีตั้งไว้ที่ 3,300 ล้านบาท คาดว่าจะทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย

ด้านรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ประมาณ 1,350 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 1,650 ล้านบาท ประมาณ 18% สาเหตุสำคัญเกิดจากก่อสร้างไม่เป็นไปตามแผนงาน เนื่องจากปัญหาฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ที่บริษัทเปิดขายโครงการใหม่

ขณะเดียวกัน ยังเป็นผลจากการปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ไป 2 โครงการ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและฟังก์ชั่นของบ้านให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยคาดว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ปี 2565 ซึ่งตั้งเป้าไว้ประมาณ 2,500 ล้านบาท จะทำได้จริงประมาณ 2,000-2,100 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo