Business

การบินไทยไม่ง้อรัฐ โชว์ 5 แบงก์ ให้กู้ 2.5 หมื่นล้าน – รัฐประกาศตัดขาดไม่ใส่เงินเพิ่ม

การบินไทย โชว์ 5 แบงก์ ให้กู้ 25,000 ล้านบาท ใช้อสังหาฯทั้งในและต่างประเทศ รวมเครื่องบินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ลงนามได้ มี.ค.นี้ ภาครัฐตัดขาดประกาศไม่ใส่เงินเพิ่ม 25,000 ล้านบาท เดินหน้าปรับโครงสร้างทุนใหม่ สร้างรายได้เพิ่มต่อเนื่อง หลังเปิดประเทศ มั่นใจออกจากแผนฟื้นฟูได้เร็วกว่า 5 ปี “ปิยสวัสดิ์” คุย ปี 64 กำไรทะลัก 5.5 หมื่นล้านบาท

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย ว่า การบินไทยจะมีการปรับแผนฟื้นฟูกิจการอีกครั้ง หลังจากที่มีความชัดเจนว่า ในส่วนของเงินกู้ 25,000 ล้านบาท จากภาครัฐยืนยันว่าจะไม่ใส่เงินเข้ามาที่การบินไทยดังนั้นจะเหลือในส่วนเงินกู้จากสถาบันการเงินอีก 25,000 ล้านบาทเท่านั้น

การบินไทย

การบินไทยโชว์ 5 แบงก์ให้กู้ 2.5 หมื่นล้าน – รัฐประกาศตัดขาดไม่ใส่เงินเพิ่ม!!

ขณะนี้ทางธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก (เอ็กซิมแบงก์) ชัดเจนว่าจะให้การบินไทยกู้ คาดว่าการบินไทยจะลงนามในสัญญาสินเชื่อใหม่ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยเงินกู้ส่วนนี้จะนำมาใช้ชำระคืนหนี้ค่าตั๋วเครื่องบินผู้โดยสาร จ่ายชดเชยพนักงานที่เข้าโครงการร่วมใจจากองค์กรที่จะต้องดำเนินการทยอยชำระจนถึงสิ้นปี และใช้เป็นกระแสเงินสด

การบินไทย

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่การบินไทย จะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้เร็วกว่าแผนเดิม หรือ 5 ปี โดยมีปัจจัยสำคัญในการปรับโครงสร้างทุน ที่จากเดิมไม่มีแต่เมื่อมีการปรับแผนฟื้นฟูต้องการเงินกู้แค่ 25,000 ล้านบาท ทางผู้ให้กู้ก็ต้องการให้มีการปรับโครงสร้างทุนใหม่ มั่นใจว่าจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวก และมี EBITDA หรือกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย กลับมาเป็นบวกต่อเนื่อง ตามที่กำหนดในแผนฟื้นฟูด้วย

ปัจจุบันการบินไทย ได้ปรับฝูงบินใช้เครื่องบินรุ่นที่ประหยัดพลังงานมากกว่าในอดีต ทำให้ภาระต้นทุนพลังงานลดลง ทั้งนี้ยืนยันว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด ต่อการบินไทยขณะนี้ คือ การเปิดประเทศ ทั้งของไทย และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก หากมีการเปิดประเทศมาก โอกาสที่จะเพิ่มการบินหลังสถานการณ์โควิด-19 ก็จะเพิ่มมากขึ้น โอกาสที่จะเพิ่มรายได้ก็จะสูงไปด้วย

ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนจากมาตรการ Test & Go ที่ไทยนำมาใช้ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมากขึ้น เมื่อยกเลิกไป ก็ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง เมื่อไทยนำโครงการ Test & Go กลับมาใช้อีกครั้ง ก็เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากขึ้นแน่นอน

การบินไทย

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่านักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญที่จะมีผลต่อการเพิ่มรายได้ ของการบินไทย คือนักท่องเที่ยวในภูมิภาค เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่ง จีน อาจยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการเปิดให้คนเดินทางออกมาท่องเที่ยว แต่ในส่วนของญี่ปุ่นเกาหลี ก็คาดว่าในปลายปีนี้จะมีความชัดเจน ส่วนเส้นทางบินที่การบิน เตรียมเปิดบิน หรือ เพิ่มความถี่ เช่น เส้นทางบินไปอินเดีย ออสเตรเลีย รวมถึงการเปิดบินไปซาอุดิอาระเบีย ด้วย

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2564 โดยบริษัทและบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานเป็นรายได้จำนวน 81,525 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ อาทิ การปรับโครงสร้างหนี้ การขายทรัพย์สินและเงินลงทุน การปรับโครงสร้างและขนาดองค์กร เป็นต้น ส่งผลให้บริษัท และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิสิ้นสุด ณ 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 55,113 ล้านบาท

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวถึงวิกฤติความขัดแย้งรัสเซีย และ ยูเครน ขณะนี้ว่าเรื่องเส้นทางบินยืนยันว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับการบินไทย เนื่องจากการบินไทยไม่มีเส้นทางบินไปรัสเซีย และในช่วงที่ผ่านมา การบินไทยทำการบินก็จะเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือ ชาร์เตอร์ไฟลท์ ในการขนส่งผู้โดยสาร ส่วนผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมัน ก็เป็นสิ่งที่ทุกสายการบินต้องเผชิญอยู่แล้ว

ด้านนายชาย เอี่ยมศิริ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ สายการเงินและการบัญชี การบินไทย กล่าวว่า ในการกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ในวงเงิน 25,000 ล้านบาท จะมีธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งให้กู้

การบินไทย

โดยมีธนาคารกรุงเทพ เป็นแกนนำ ทั้งนี้ในการกู้เงินจากสถาบันการเงิน การบินไทยจะใช้อสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดที่อยู่ในประเทศ และต่างประเทศของการบินไทย รวมถึงเครื่องบินที่การบินไทยเป็นเจ้าของ เครื่องบินที่จอดรอการขาย รวม 45 ลำ มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้เงิน ส่วนการแปลงหนี้เป็นทุนจะยังมีอยู่ แต่ยืนยันจะไม่มีการแฮร์คัทหนี้กับเจ้าหนี้แน่นอน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight