Business

สอน. ปิ๊งไอเดียปั้นโมเดล หาพันธมิตรปลูกอ้อยรวมแปลงไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่

สอน. เล็งหาพันธมิตรปลุกปั้นโมเดลปลูกอ้อยรวมแปลงไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ ชูต้นแบบการบริหารจัดการต้นทุนต่ำกว่า 1,000 บาทต่อไร่ ให้ผลผลิตสูง 

นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า การดำเนินงานของ สอน. ในปี 2564 ได้ยกระดับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการทำงานรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลพวงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการใช้เทคโนโลยีและสื่อออนไลน์ที่เข้ามามีบทบาทในการปฏิบัติงานอย่างรวดเร็ว

ปลูกอ้อยรวมแปลง

สำหรับในปี 2565 สอน. ยังเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มตลาดกลางเครื่องจักรที่ใช้ในไร่อ้อย บนเว็บไซต์ www.Raiaoi.com เพื่อเป็นตลาดกลางเชื่อมโยงชาวไร่อ้อยกับผู้ประกอบการเครื่องจักรกลทั้งที่ขายและให้เช่าได้เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกัน

ทั้งนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าว จะช่วยให้ชาวไร่อ้อยเข้าถึงข้อมูลและเครื่องจักรที่ต้องการได้สะดวกรวดเร็วขึ้น เช่น รถแทรกเตอร์ รถตัดอ้อย รถไถ รถสาง รถพรวนดิน แล็บเตอร์ เป็นต้น ภายใต้งบประมาณสนับสนุนจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย

พร้อมกันนี้ สอน. ขอเชิญชวนผู้ประกอบการเครื่องจักรกลทางการเกษตรทั้งรายเล็กรายใหญ่ ทั้งขายและให้เช่า รวมถึงเกษตรกรรายย่อย เข้าร่วมบนเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มศักยภาพการตัดอ้อยให้ได้อย่างน้อย 20,000 ตันต่อเครื่องตัดต่อปี คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่ เพิ่มรายได้ให้เจ้าของเครื่องจักรคืนทุน

เอกภัทร วังสุวรรณ
เอกภัทร วังสุวรรณ

ที่สำคัญยังสนับสนุนให้ชาวไร่อ้อยหันมาตัดอ้อยสดลดปริมาณการตัดอ้อยไฟไหม้ เพื่อลดปัญหามลภาวะฝุ่นพิษอย่างต่อเนื่อง โดยฤดูการผลิตปี 2564/2565 สอน. ตั้งเป้าหมายลดปริมาณการตัดอ้อยไฟไหม้เหลือ 10% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด

สำหรับปีนี้คาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าหีบอยู่ที่ 85 ล้านตัน (ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2563/2564 ที่มีอ้อยไฟไหม้เกือบ 27% ของปริมาณอ้อยทั้งหมด 66.65 ล้านตัน และลดลงจากปี 2562/2563 ที่มีอ้อยไฟไหม้ประมาณ 49%)

ขณะที่ฤดูการผลิตปี 2565/2566 ตั้งเป้าหมายตัดอ้อยไฟไหม้ลดลงเหลือ 5% และปี 2566/2567 เป็น 0% เพื่อแก้ไขปัญหาการเผาไร่อ้อยเป็นการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างถาวร

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเสาะหาพันธมิตร เพื่อร่วมมือกันปลูกอ้อยรวมแปลงใหญ่ เป็นพื้นที่นำร่อง ขนาดไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ภายในปีนี้ เพื่อเป็นแปลงตัวอย่างในการเพาะปลูกและการบริหารจัดการต้นทุนที่เป็นมาตรฐาน ตั้งเป้าหมายให้ชาวไร่อ้อยมีต้นทุนปลูกอ้อยต่ำกว่า 1,000 บาทต่อไร่ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,200-1,400 บาทต่อตันต่อไร่

การทำแปลงใหญ่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกให้มีผลผลิตสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 12 ตันต่อไร่ จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ตันต่อไร่ ภายใน 3 ปี

ทั้งนี้ ชาวไร่อ้อยยังสามารถตรวจสิทธิ์เงินช่วยเหลือของตนเองได้ในโครงการตรวจสิทธิ์อ้อย บนแพลตฟอร์มออนไลน์เพียงสแกนคิวอาร์ โค้ด (QR Code) ไลน์ ตรวจสิทธิ์อ้อย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo