“ศักดิ์สยาม” เจรจา BEM ลดค่าครองชีพประชาชน ยังไม่ปรับค่าทางด่วน “ศรีรัช – วงแหวนรอบนอก” ตามสัญญา ขอใช้ราคาเดิม 1 ปี เริ่ม 15 ธ.ค.นี้-15 ธ.ค.65 กล่อม BEM ใช้ตั๋วร่วม-เทคโนโลยีจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น ขณะผู้บริหาร BEM เผยพร้อมตรึงค่าทางด่วน 1 ปี เตรียมออกโปรโมชันซื้อคูปอง ใช้ราคาเดิม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยมีนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ประธานคณะกรรมการ และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) โดยนายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล กรรมการบริหาร บริษัท เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการกำหนดมาตรการเยียวยาให้กับประชาชน จากกรณีการปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ตามสัญญาสัมปทาน ในวันที่ 15 ธันวาคม 2564
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าการหารือครั้งนี้สืบเนื่องจากในปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจ โดยรวมของประเทศ เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) อาจส่งผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษ จากการหารือครั้งนี้ เห็นควรให้ กทพ. และ BEM มีแนวทางการกำหนดมาตรการเยียวยาให้กับประชาชน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนอันอาจเกิดขึ้น ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้แสดงความห่วงใยต่อกรณีการปรับค่าผ่านทาง จึงขอให้ทาง BEM ได้พิจารณาให้ความร่วมมือกับภาครัฐ และช่วยเหลือประชาชน โดยการออกมาตรการในการส่งเสริมการตลาด หรือชะลอการขึ้นค่าผ่านทางที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ด้วย
ทั้งนี้ผู้แทนบริษัท BEM ได้รับต่อที่ประชุมในการช่วยออกมาตรการส่งเสริมทางการตลาด เพื่อมิให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อการปรับขึ้นค่าผ่านทางในช่วงดังกล่าว โดยออกเป็นลักษณะของการส่งเสริมการตลาด หรือ Promotion ในรูปแบบผู้ใช้ทางที่ใช้คูปองชำระค่าผ่านทางในอัตราราคาเดิมที่ใช้อยู่เป็นระยะเวลา 1 ปี (15 ธ.ค. 2564 – 15 ธ.ค. 2565) โดยทาง BEM จะทำหนังสือยืนยันมาตรการดังกล่าว แจ้งมายัง กทพ. เพื่อประชาสัมพันธ์ผู้ใช้ทางพิเศษในช่วงดังกล่าวต่อไป
ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบนทางพิเศษของ กทพ. ที่อยู่ในการกำกับดูแลตามสัญญาสัมปทานของ BEM จำนวน 3 สายทาง ประกอบด้วย ทางพิเศษสายศรีรัช ทางพิเศษสายอุดรรัถยา และทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวน รอบนอกกรุงเทพมหานคร โดยการนำเทคโนโลยีระบบจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (Multi-Lane Free Flow : M-Flow) มาใช้ ทั้งนี้ได้มีข้อสรุปให้ กทพ. จัดทำแผนให้ชัดเจนเพื่อเร่งรัดการแปรนโยบายไปสู่การปฏิบัติต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงการพัฒนาระบบตั๋วร่วม เพื่อให้บริการในระบบขนส่งสาธารณะแก่ประชาชนให้ได้รับความสะดวก โดยทาง BEM ยินดีให้ความสนับสนุนกระทรวงคมนาคมในการพัฒนาระบบตั๋วร่วมเพื่อใช้ในระบบขนส่งสาธารณะที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการอยู่ โดยระยะแรกได้มีการพัฒนาระบบ EMV Contactless ซึ่งเป็นการหักเงินผ่านระบบบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของธนาคาร ทั้งในระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง พร้อมบูรณาการร่วมกับรถโดยสารของ ขสมก. และทางพิเศษ และจะได้มีการขยายผล ให้ครอบคลุมระบบขนส่งสาธารณะของกระทรวงคมนาคม รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบในระยะต่อไป
ด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล กรรมการบริหาร บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน บริษัทพร้อมตรึงค่าผ่านทางราคาเดิมอีก 1 ปี แต่จะออกโปรโมชัน ให้ผู้ใช้บริการทางด่วนซื้อคูปองในราคาเดิมออกไป 1 ปี “เท่ากับเป็นการตรึงค่าผ่านทางเส้นนอกเมือง 1 ปี สำหรับผู้ที่ซื้อคูปอง ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ขึ้นฟรี!! กทพ.แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางด่วน 3 สายทาง 13 ต.ค.นี้
- รู้ยัง? 12 สิงหาคมนี้ขึ้นทางด่วนฟรี 3 สาย เริ่ม 00.01-24.00 น.
- เจรจาได้แล้ว! ลดค่าทางด่วน 25 บาท ทุกประเภท ด่านอาจณรงค์ 1 ลงบางนา