Business

‘วอลโว่’ เปิดกลยุทธ์โควิด-19 ‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น’ ลุยยานยนต์ไฟฟ้าเต็มร้อย

วอลโว่ คาร์ เปิดกลยุทธ์ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 เดินหน้าชู ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ยกระดับการขายด้วยบริการดิจิทัล เต็มรูปแบบ พร้อมปักธงลุยพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า

นายภัทรพงษ์ อชะปาละศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมาก เป็นตัวกระตุ้นหลัก ที่ทำให้บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลง ทำให้เร่งพัฒนากลยุทธ์โครงสร้างการทำงาน สู่ระบบดิจิทัล เพื่อให้แบรนด์ Volvo สามารถเชื่อมโยงและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

วอลโว่

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ 1,824 คัน โดยเป็นลูกค้าองค์กร 26% ส่วนการจำหน่ายรถยนต์มือสองภายใต้มาตรฐาน Volvo Selekt Used Cars มีอัตราลดลงเพียง 10%

ทั้งนี้ รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่รุ่น XC40 คิดเป็น 30% ของยอดจำหน่ายรวม ตามด้วยรุ่น XC60 คิดเป็น 26% และรุ่น V60 คิดเป็น 16% โดยรุ่นที่น่าจับตามองคือ รุ่น S60 ซึ่งเปิดตัวในช่วงการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคระบาดโควิด-19 แต่ยังสามารถจำหน่ายได้นับร้อยคันทันทีที่เปิดจอง

“วิกฤติในปี  2563 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก สำหรับบริษัทมีการตั้งรับสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ด้วยการยกระดับช่องทางการสื่อสารออนไลน์และมาตรฐานด้านสุขอนามัย ในศูนย์บริการทุกแห่ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า”

นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถจำหน่าย รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ระดับพรีเมียมได้เกือบ 2,000 คัน โดยลดลงจากปี 2562 เพียง 13% เท่านั้น รวมทั้งมีการขยายเครือข่ายโชว์รูมพันธมิตรเพิ่มอีก 3 แห่ง

วอลโว่1

วอลโว่ ปักธงลุยรถพลังงานไฟฟ้า 100% ปี 2573

ขณะเดียวกัน ยังกำหนดเป้าหมายให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทแม่ นั่นคือภายในปี 2568 นั้น 50% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ ต้องมาจากรถยนต์พลังไฟฟ้า100% และภายในปี 2573 รถยนต์ทุกรุ่นจะต้องเป็นรถยนต์พลังไฟฟ้า100% เท่านั้น

ขณะที่ในปี 2564 นี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบรุ่นแรก Volvo XC40 Recharge Pure Electric ซึ่งสร้างกระแสความตื่นตัวด้านรถยนต์พลังไฟฟ้าอย่างมาก ทั้งยังจับมือเป็นพันธมิตรกับ EA Anywhere ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งมีสถานีชาร์จไฟกว่า 1,000 จุดทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และปูทางสู่อนาคตรถยนต์พลังไฟฟ้าที่ยั่งยืน

นอกจากการขับเคลื่อนโชว์รูมทุกแห่ง ให้สามารถมอบบริการตามมาตรฐาน Volvo Retail Experience (VRE) ยังเดินหน้าเปิดตัวผู้จัดจำหน่ายรายใหม่อย่างเป็นทางการ 4 ราย ได้แก่ 14 Auto Marque เขตจอมทอง Newton Prestige Auto เขตตลิ่งชัน Phranakorn Swedish Car สาขาลาดพร้าว และ GT Auto สาขาพัทยา

วอลโว่

ในส่วนของการให้บริการลุกค้า จะเดินหน้าปรับศูนย์บริการลูกค้า สู่การเป็นศูนย์บริการลูกค้าระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ ด้วย Customer Relations Center (CRC) ในรูปแบบศูนย์ข้อมูลกลาง และการประสานงานผ่านเครือข่ายดิจิทัล รองรับทั้งการจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ผ่านระบบออนไลน์แบบ Site To Store และการทำธุรกรรมทั้งก่อนและหลังการขาย

พร้อมกันนี้ ยังได้เพิ่มช่องทางการขายให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบรับกับมาตรการเว้นระยะห่างของผู้คนในปัจจุบัน โดยนำเสนอทั้งช่องทาง LINE Official Account และ การสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ www.volvocars.com/th โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าซึ่งมีบริการ Site To Store

“ในสถานการณ์โควิด-19 ยังคงส่อแววยืดเยื้ออีกเป็นเวลานาน และจะทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า และการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้น วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จึงเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์การดำเนินงานสู่ระบบดิจิทัล คือแนวทางที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์ในปัจจุบัน และจะเป็นส่วนสำคัญ ในการขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์ในอนาคต”นายภัทรพงษ์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo