Business

หมดมาตรการกระตุ้น เม.ย. คาดเงินเฟ้อบวกแรง หลังราคาพลังงานพุ่ง ทั้งปีอยู่ในกรอบ 0.7-1.7%

ราคาพลังงานพุ่ง ดันเงินเฟ้อใกล้พลิกเป็นบวก เดือน มี.ค. 64 ลดลง 0.08% หดตัวต่ำสุดในรอบ 13 เดือน คาดเม.ย. พุ่งแน่ หลังหมดมาตรการรัฐ และจะขึ้นต่อเนื่องทั้งปี

นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) ของไทย เดือนมี.ค. 2564 ดัชนีอยู่ที่ระดับ 99.11 ลดลง 0.08% เมื่อเทียบกับ เดือนมี.ค.2563 ถือว่าหดตัวน้อยสุดในรอบ 13 เดือน นับตั้งแต่ มี.ค. 2563 แต่เพิ่มขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. 2564 โดยเป็นผลมาจาก ราคาพลังงานพุ่ง

น้ำมันขึ้นลง ๒๑๐๔๐๕

ส่วนเฉลี่ย 3 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-มี.ค.) ลดลง 0.53% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก พบว่า ดัชนีอยู่ที่ 100.42 เพิ่มขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2563 และเพิ่มขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.2564 และเฉลี่ย 3 เดือนเพิ่มขึ้น 0.12%

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเดือนมี.ค.2564 ยังคงติดลบ เพราะยังได้รับผลดีจากมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล ทั้งการลดค่าไฟฟ้าและน้ำประปาที่ยังคงมีอยู่และสิ้นสุดในเดือนมี.ค.2564 ราคากลุ่มอาหารสด ยังคงลดลง เช่น ข้าวสาร ไก่สด ไข่ไก่ และผักสด

ส่วนสินค้าหมวดอื่นๆ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ แต่เงินเฟ้อก็เริ่มได้รับแรงกดดันจากราคาพลังงาน ที่กลับมาเป็นบวกอีกครั้งในรอบ 14 เดือน เพิ่มขึ้น 1.35% โดยเฉพาะราคาน้ำมันเพิ่ม 17.18% ทำให้ราคาขายปลีกในประเทศ ปรับขึ้น 5 ครั้ง และปรับลง 5 ครั้ง แต่ราคาปรับขึ้นมากกว่าราคาที่ลดลง รวมทั้งยังมีการเพิ่มขึ้นของน้ำมันพืช และเนื้อสุกร

พลังงาน

อย่างไรก็ตาม คาดว่า เงินเฟ้อเดือน เม.ย.2564 จะบวกแรง เพราะมาตรการลดค่าไฟฟ้า และน้ำประปา หมดไปแล้ว และจะบวกต่อเนื่องไปทั้งปี โดยไตรมาส 2 จะบวกค่อนข้างเยอะ เพราะฐานปีที่แล้วต่ำ โดยมีน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นตัวสำคัญ ที่จะทำให้เงินเฟ้อขึ้นมากหรือน้อย ส่วนอาหารสด เป็นไปตามฤดูกาล และความต้องการบริโภค ซึ่งก็ดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นต่างๆ ของรัฐบาลที่จะมีต่อเนื่อง และยังมีการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งล้วนส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการ ที่เพิ่มขึ้นได้

ขณะที่ตลอดปี 2564 คาดว่า เงินเฟ้อ จะยังอยู่ในกรอบที่ สนค. คาดการณ์ไว้ที่ขยายตัว 0.7-1.7% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 1.2% แม้จะมีการปรับสมมติฐานต่างๆ เพิ่มขึ้นก็ตาม โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 2.5-3.5% จากเดิมในเดือนธ.ค. 2563 คาดโต 3.5-4.5%

ในส่วนของราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 55-65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมคาด 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ค่าเงินบาททั้งปีอยู่ที่ 29.0-31.0 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากเดิมคาด 30.0-32.0 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo