Business

‘วิกฤติแรงงาน’ ผ่านจุดต่ำสุด เริ่มเห็นสัญญานฟื้น จ้างงานเพิ่ม ต้นปี 65 ฟื้นสู่ภาวะปกติ

วิกฤติแรงงาน ผ่านจุดต่ำสุด จ๊อบส์ ดีบี เผยหลังวิกฤติ กลุ่มสายงาน และภาคธุรกิจส่งสัญญาณบวก งานขาย ไอที วิศวกรรม ยังเป็นที่ต้องการสูงสุด

นางสาวพรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จ๊อบส์ ดีบี ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูล และประเมินแนวโน้มทิศทางตลาดแรงงาน หลังวิกฤติ พบว่า วิกฤติแรงงาน ผ่านจุดต่ำสุด โดยล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 จำนวนความต้องการแรงงานในประเทศไทย ทั้งจากบนแพลตฟอร์มหางาน และช่องทางสื่อกลางออนไลน์อื่น ๆ ฟื้นขึ้นจากจุดต่ำสุดถึง 24.65%

วิกฤติแรงงาน ผ่านจุดต่ำสุด

ตัวเลขดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัว ของตลาดแรงงานไทย ผ่านจำนวนความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการว่า ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดจากช่วงเดือนเมษายน 2563 และเดือนธันวาคม 2563 จากการระบาดระลอกที่ 2

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า จำนวนประกาศงานทั้งประเทศ จะกลับมาเป็นบวก 5% ในกลางปี 2564 (เมื่อเทียบกับกลางปี 2563) และจะฟื้นตัวเท่ากับก่อนวิกฤตการณ์โควิด–19 ในต้นปี 2565 หากไม่มีการระบาดระลอกใหม่

กลุ่มสายงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด จากจำนวนประกาศงานบน จ๊อบส์ ดีบี ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 ได้แก่

  • สายงานขาย บริการลูกค้า และพัฒนาธุรกิจ คิดเป็น 16.0%
  • สายงานไอที คิดเป็น 14.7%
  • สายงานวิศวกรรม คิดเป็น 9.8%

1 เงินเดือนมากสุด

การฟื้นตัวของแต่ละกลุ่มสายงาน

  • สายงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ คิดเป็น 29.7%
  • สายงานขนส่ง คิดเป็น 24.7%
  • สายงานการผลิต คิดเป็น 20.8%

พร้อมกันนี้ ยังพบว่า มีสายงานใหม่ ๆ เกิดขึ้นจากอุปสงค์ในประเทศที่เปลี่ยนไป หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 อาทิ นักพัฒนาเอไอ ที่ปรึกษาด้านบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล ผู้เชี่ยวชาญ Business Transformation รวมถึง Growth Officer

ในด้านมุมมองกลุ่มธุรกิจพบว่า ธุรกิจที่มีสัดส่วนจำนวนประกาศงานสูงสุด ได้แก่

  • กลุ่มธุรกิจไอที คิดเป็น 12.9%
  • กลุ่มธุรกิจการผลิต คิดเป็น 8.1%
  • กลุ่มธุรกิจการค้าปลีก-ส่ง คิดเป็น 6.6%

1 สายงานหัวหน้า

ธุรกิจที่มีอัตราการฟื้นตัวสูงสุดเมื่อเทียบกับครึ่งปีหลังของปี 2563 ได้แก่

  • กลุ่มธุรกิจประกันภัย คิดเป็น 42.9%
  • กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็น 41.9%
  • กลุ่มธุรกิจการผลิต คิดเป็น 37.7%

ขณะที่ อัตราการแข่งขันในการหางานของคนไทย มีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 20% ในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 และมีอัตราส่วนการแข่งขันอยู่ที่ 1 ต่อ 100 ใบสมัคร โดยการแข่งขันมีการกระจุกตัวอยู่เพียงในกลุ่มคนทำงานที่เงินเดือนไม่เกิน 30,000 บาท

วิกฤติแรงงาน ผ่านจุดต่ำสุด

ด้านสถานการณ์การจ้างงาน ของกลุ่มประเทศในอาเซียน พบว่า ประเทศที่มีจำนวนประกาศงานออนไลน์ลดลงมากที่สุดจากช่วงก่อนหน้าสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่

  • อินโดนีเซีย ลดลง 55.7%
  • ฟิลิปปินส์ ลดลง 46.6%
  • มาเลเซีย ลดลง 39.0%
  • ไทย ลดลง 35.6%

จากจำนวนประกาศงานออนไลน์ล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 พบว่า ประเทศที่เริ่มกลับมามีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 14.8%, อินโดนีเซีย ติดลบดีขึ้นเหลือ -16.4%, ไทย ติดลบดีขึ้นเหลือ -20.5% และฟิลิปปินส์ ติดลบดีขึ้นเหลือ -37.7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2563

จ๊อบส์ ดีบี ยังได้ร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป และ เดอะ เน็ตเวิร์ก จัดทำแบบสำรวจระดับโลก “ถอดรหัสลับ จับทิศทางความต้องการคนทำงานยุคใหม่” ฉบับที่ 1 จากผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 2 แสนคน ใน 190 ประเทศ ภายใต้หัวข้อ “Where – ประเทศที่คนอยากทำงาน และการทำงานแบบเวอร์ชวล” เพื่อศึกษาความต้องการที่เปลี่ยนไปในแต่ละปีของแรงงานทั่วโลก โดยเฉพาะปีที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19

1ผู้บริหาร

ทั้งนี้ จากผลสำรวจ พบว่า เกิดสองปรากฏการณ์สำคัญในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19

ปรากกฏการณ์แรก คนทำงานหันมาให้ความสนใจการทำงานแบบเวอร์ชวล โดยกว่า 57% ของคนทำงานทั่วโลกยินดีที่จะทำงานให้กับบริษัทที่อยู่ต่างพื้นที่ และ 50% ของคนไทยยินดีที่จะทำงานให้กับบริษัทที่อยู่ต่างพื้นที่ ซึ่ง 3 อันดับประเทศที่คนไทยอยากไปทำงานด้วยมากที่สุด ได้แก่ ออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

ส่วน 5 อันดับแรงงานต่างชาติ ที่สนใจอยากมาทำงานให้กับบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ได้แก่  สิงคโปร์, มาเลเซีย, จีน, อินโดนีเซีย และรัสเซีย ตามลำดับ

ในปี 2563 ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับ 35 จากประเทศทั่วโลกที่คนทำงานต่างชาติสนใจอยากเข้ามาทำงาน ขยับขึ้นมาจากอันดับ 43 และ 39 ในปี 2014 และ 2018 ตามลำดับ

Presentation

ปรากฏการณ์ที่สอง จากผลสำรวจของ จ๊อบส์ ดีบี คือ คนทำงานในประเทศไทยหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 มีพฤติกรรมหันมาทำงานแบบเวอร์ชวลมากขึ้นในทุกสายงาน โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี ดิจิทัล วิทยาศาสตร์

ทั้งสองปรากฏการณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มคนทำงานแบบเวอร์ชวล (Virtual Talent Pool) ที่จะมาเป็นกุญแจสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับภาครัฐ นายจ้าง รวมถึงคนทำงานในยุคหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการหางานในต่างประเทศโดยไม่ต้องโยกย้ายถิ่นฐาน หรือโอกาสในการหาคนทำงานที่ตรงตามความต้องการจากต่างประเทศ

ล่าสุด จ๊อบส์ ดีบี ได้ปรับรูปลักษณ์ตลอดจนทิศทางการดำเนินธุรกิจใหม่ เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ผ่านการเปิดตัวแคมเปญ “หางานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่เลือก” และเปิดตัวโซลูชันใหม่ให้ภาคธุรกิจและคนหางาน อาทิ การปรับอินเตอร์เฟซโฉมใหม่ การปรับฟีเจอร์ใหม่ที่จะเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์แบบเพอร์เซอนัลไลเซชัน เป็นต้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo