Business

เคาะแล้ว! ไฟเขียว ส่งออกน้ำมันปาล์ม ระบาย 3 แสนตัน ภายในมีนาคม 64

ส่งออกน้ำมันปาล์ม ฉลุย คกก.ปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ตั้งเป้าลดผลผลิต ส่วนเกิน 300,000 ตัน เล็งประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ระยะที่ 2

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ครั้งที่ 2/2563 ที่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ มีมติ ไฟเขียว ส่งออกน้ำมันปาล์ม โดยเห็นชอบการดำเนินโครงการ ผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์ม เพื่อลดผลผลิตส่วนเกินเป้าหมาย 300,000 ตัน ภายในเดือนมีนาคม 2564

ส่งออกน้ำมันปาล์ม

ทั้งนี้ เพื่อลดปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกิน และ รักษาเสถียรภาพราคา ปาล์มน้ำมัน และ น้ำมันปาล์มในประเทศ ด้วยการสนับสนุนค่าใช้จ่าย ในการบริหารจัดการ อาทิ ค่าขนส่ง ค่าคลังจัดเก็บและรักษาคุณภาพ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ในอัตราไม่เกิน 2.00 บาท ต่อกิโลกรัมน้ำมันปาล์มดิบ ให้แก่ผู้ที่ส่งออกน้ำมันปาล์ม ตามโครงการฯ

พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เสนอขอใช้งบประมาณ กองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จำนวน 600 ล้านบาท และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณา เรื่องการดำเนินโครงการ ประกันรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ระยะที่ 2 ในปี 2563 – 2564 เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถมีรายได้ จากการขายผลผลิตที่มีคุณภาพ และบรรเทาความเดือดร้อน ของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน จากปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ำ

ในเรื่องดังกล่าว ได้มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่งออกน้ำมันปาล์ม

สำหรับการดำเนินการ ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562 – 2563 ที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้จ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ระหว่างอัตราประกัน รายได้ (4.00 บาท/กก.) กับราคาตลาดอ้างอิงให้แก่เกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร ครบแล้ว รวม 9 งวด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2563

ขณะที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จ่ายเงินเข้าบัญชี ของเกษตรกร รวมจำนวน 375,202 ครัวเรือน วงเงิน 6,729.57 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 51.77 ของวงเงินงบประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้เงินที่น้อยกว่าที่ตั้งงบประมาณไว้

ด้านสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ภายในประเทศ ผลผลิตปาล์มน้ำมัน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 มีปริมาณ 9.271 ล้านตัน ลดลงจากปริมาณ 9.609 ล้านตัน ในช่วงเดียวกันของปี 2562

ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 คาดว่าจะมี ผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 11.81%  โดยในเดือนสิงหาคม และเดือนกันยายน คาดว่า ผลผลิตจะออกสู่ตลาดประมาณ 1.367 ล้านตัน และ 1.348 ล้านตัน ตามลำดับ

GettyImages 619303856
Harvested palm oil fruit at Rokan Hilir, Riau, Indonesia.

อย่างไรก็ตาม แม้ภาวะการค้าชะลอตัวลง ในช่วงเดือนเมษายน 2563 เนื่องได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด-19 ส่งผลให้ราคาผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมัน 18%) ปรับลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ย กิโลกรัมละ 3.18 บาท

แต่จากที่ รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดของ มาตรการป้องกันการระบาดของ โควิด-19 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ถึงเดือนมิถุนายน 2563 ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มโดยภาพรวม ทั้งการบริโภค และพลังงานเพิ่มขึ้น โดย ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2563 ราคาผลปาล์มทะลาย (18%) ในแหล่งผลิตสําคัญ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.20 – 4.00 บาท ราคาน้ามันปาล์มดิบ ตลาดกรุงเทพฯ เฉลี่ย กิโลกรัมละ 20.00 – 20.50 บาท

ที่ประชุมได้ย้ำให้ทุกฝ่าย ช่วยกันดำเนินการ ที่จะดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ ออกจากตลาด เพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ควบคู่กับ การดำเนินโครงการ ผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์ม เพื่อลดผลผลิตส่วนเกินเป้าหมาย 300,000 ตัน ที่กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ดำเนินการ

พร้อมกันนี้ จะเร่งให้มีการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วฐานของประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลในประเทศ ให้มากยิ่งขึ้น โดยมีการส่งเสริม ใช้มาตรการจูงใจด้านราคา ด้วยการกําหนดราคา บี10 ให้ถูกกว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (บี7) ปัจจุบันส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 ถูกกว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 อยู่ที่ 3 บาทต่อลิตร

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo