โมเดลความสำเร็จของหุ้นRS ส่งผลให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2563 ดีเกินคาด กับ 2 ธุรกิจสร้างรายได้หลักให้กับองค์กร
การทำธุรกิจของ RS ทำให้หุ้น RS หรือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำผลงานในงวดไตรมาส 1/2563 ออกมาดีเกินคาด ด้วยรายได้ 990.15 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 188.48 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 69.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาดูว่า โมเดลความสำเร็จของหุ้นRS เป็นอย่างไร
สิ่งที่น่าสนใจ คือ กำไรสุทธิจำนวน 188.48 ล้านบาท ที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ นับเป็นสถิติกำไรสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ประจำไตรมาสของ RS เลย นอกจากนี้ เพียงไตรมาสแรกแค่ไตรมาสเดียว RS ก็มีกำไรสุทธิเกินครึ่งหนึ่งของปี 2562 เข้าไปแล้ว
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี ระบุว่า ผลประกอบการของ RS ดีกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 40% ดังนั้น จึงได้ปรับประมาณการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2563 ขึ้น 5% เป็น 519 ล้านบาท เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทที่ดีกว่าคาด ซึ่งหากทำได้ตามนี้ จะส่งผลให้ปี 2563 เป็นที่ RS สร้างสถิติกำไรสูงสุดใหม่ทันที
พออ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าคงมีคนไม่น้อยที่สงสัยว่าทำไม RS ถึงได้เติบโตก้าวกระโดดแบบนี้ ในเมื่อภาพรวมเศรษฐกิจก็ยังไม่ดี ขณะที่สื่อทีวี ค่ายเพลง ธุรกิจบันเทิงอื่นๆ ก็กำลังถูกท้าทายอย่างมาก จากการเปลี่ยนผ่านจากสื่อดั้งเดิมไปสู่สื่อยุคใหม่ และเม็ดเงินโฆษณาที่หดตัวลงอย่างชัดเจน
แม้ปัจจุบัน RS จะปรับธุรกิจไปมุ่งเน้นในกลุ่มพาณิชย์ ซึ่งเป็นการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม แต่ก็ยังมีรายได้จำนวนไม่น้อยที่เป็นของธุรกิจสื่อบันเทิง วันนี้ เราเลยจะลองแกะงบบริษัท ถอดโมเดลความสำเร็จนี้กัน
โมเดลความสำเร็จของหุ้นRS เป็นโมเดลใหม่ Entertainmerce ผสานธุรกิจโตไปด้วยกัน
ปัจจุบัน RS มีรายได้หลักมาจาก 2 ทาง ได้แก่
1. ธุรกิจพาณิชย์ (MPC) ประมาณ 60% ประกอบด้วย การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเองและสินค้าจากพันธมิตร ผ่านช่องทางสื่อของบริษัท รวมถึงจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade)
2. ธุรกิจสื่อ (Media) ประมาณ 40% ประกอบด้วย ทีวีดิจิทัลช่อง 8 ค่ายเพลง จัดคอนเสิร์ต ขายสินค้าลิขสิทธิ์ และสถานีวิทยุ COOLfahrenheit
จะเห็นว่าเมื่อมองเผินๆ ทั้ง 2 ธุรกิจมีความต่างกันพอสมควร แต่จริงๆ แล้วในความต่างนั้น กลับสามารถเกื้อหนุนกันและกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะบริษัทสามารถนำสินค้าสุขภาพและความงามที่ขายมาโปรโมทผ่านช่องทางสื่อของตัวเอง หรือศิลปินในสังกัดได้เลย
เหมือนควักเงินจากกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวา อีกทั้งยังมีต้นทุนค่าการตลาดที่ต่ำกว่าเจ้าอื่นๆ ทำให้ธุรกิจพาณิชย์ของ RS มีความได้เปรียบเรื่องการแข่งขันอย่างมาก ซึ่งโมเดลนี้ RS เรียกว่า “Entertainmerce”
โดย Entertainmerce คือการใช้ความบันเทิงในการขายสินค้าควบคู่ เปลี่ยนผู้ชมเป็นผู้ซื้อสินค้า พูดง่ายๆ เป็นเหมือนโมเดลหนุนธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ (เฮียฮ้อ) ประธานกรรมการบริหาร RS กล่าวว่า “การที่เรามองโอกาสและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ จึงทำให้ธุรกิจของเราเติบโตมากกว่าได้รับผลกระทบ เพราะเรามีธุรกิจที่หลากหลายและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้รวดเร็ว”
การที่บริษัทมีความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจแบบนี้ ทำให้เวลาที่ธุรกิจหนึ่งยากลำบาก ก็ยังมีอีกพาร์ทที่เข้ามาพยุงกันไปต่อได้ เช่นในปี 2561- 2562 ที่ธุรกิจสื่อมีการแข่งขันสูงมาก แต่ RS ก็ยังมีผลประกอบการที่เติบโต จากกลุ่มสินค้าความงามและสุขภาพ เช่นกันกับในปี 2563 แม้ยอดขายสินค้าความงามจะลดลง จากกำลังซื้อของคนในประเทศที่อ่อนแอ โดยในไตรมาสแรกธุรกิจพาณิชย์มีรายได้ 500 ล้านบาท ลดลง 11.2% จากปีก่อน แต่ในแง่ของอัตราการทำกำไรยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะสามารถควบคุมต้นทุนทางการตลาดได้นั่นเอง
อย่างไรก็ดี บริษัทได้อานิสงส์จากธุรกิจสื่อที่มีรายได้ 375.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 50.1% ด้วยการคุมต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้นและได้ประโยชน์จากนโยบายช่วยเหลือลดค่าธรรมเนียมสัมปทานทีวีดิจิทัลนั่นเอง
สุดท้ายก็ต้องยอมรับเลยว่า โมเดลการทำธุรกิจของ RS นับเป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จของการปรับตัวในโลกยุคใหม่จริงๆ
ปรับโครงสร้างทีมผู้บริหารครั้งใหญ่ทุกส่วน
ก่อนหน้านี้ RS ได้ปรับโครงสร้างทีมผู้บริหารครั้งใหญ่ในทุกส่วน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของ RS ในธุรกิจคอมเมิร์ซที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มุ่งเน้นลดขั้นตอนการบริหารจัดการ เพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัวในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป โดยจะโฟกัสเรื่องคุณลักษณะสำคัญของผู้บริหารที่ดี คือไม่ยึดติด ไม่หยุดนิ่ง ปรับตัวอยู่ตลอดเวลา และมีความมุ่งมั่นสู่เป้าหมาย เป็นคุณลักษณะสำคัญขององค์กร RS จนทำให้สามารถปรับตัวและเติบโตมาได้ถึงวันนี้
ได้แต่งตั้งให้ “พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล” ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ หรือซีซีโอ รับผิดชอบดูแล และบริหารงานธุรกิจพาณิชย์ทั้งหมด ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ และการบริหารแพลตฟอร์ม รวมถึงนวัตกรรมเชิงพาณิชย์อื่นๆ เพื่อนำจุดแข็งต่างๆ ของRS ไปต่อยอดให้กับธุรกิจพาณิชย์ในรูปแบบใหม่ หลังจากร่วมงานกับR มากว่า 16 ปี
พร้อมกันนี้ ได้แต่งตั้งผู้บริหารใหม่ “วิทวัส เวชชบุษกร” ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เพื่อดูแลและขับเคลื่อนการเติบโตแบบก้าวกระโดดขององค์กร มีประสบการณ์ในการทำงานทางด้านการเงินมากว่า 10 ปี กับองค์กรชั้นนำหลายแห่ง ทั้งในธุรกิจธนาคารและรีเทล ไม่ว่าจะเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ได้ตั้ง “กุลจรรยา คฤหเดช” ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคลากร โดยจะรับผิดชอบในด้านการพัฒนายุทธศาสตร์ให้กับหน่วยงาน ดูแลทรัพยากรบุคคล และสร้างวัฒนธรรมองค์กร เพื่อสร้างผู้นำรุ่นใหม่แห่งอนาคตให้กับRS ด้วยประสบการณ์การทำงานในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลในธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้า ไทยแลนด์ มากว่า 5 ปี ในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคลากร ก่อนมาร่วมงานกับRS
- ‘อาร์เอส’ ปรับทัพบริหารยกแผง ดัน ‘พรพรรณ’ ขึ้นแท่นซีซีโอคุมธุรกิจพาณิชย์
- อาร์เอสปั้น ‘อาร์เอสมอลล์’ ลุยสมรภูมิอีคอมเมิร์ซเต็มสูบ ดัน 3 ปี แตะหมื่นล้าน
- ‘อาร์เอส’ ลุยช่อง ‘เวิร์คพอยท์’ ขายสินค้า 2 ปี ดัน 1,000 ล้าน