เสนา – ฮันคิว ร่วมทุนพัฒนาคอนโดฯ “นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์” ชูไฮไลท์ “พื้นที่ส่วนกลาง 30 ชั้น” ครั้งแรกในไทย เปิดพรีเซล 10 มี.ค.นี้ ย้ำทำเลเตาปูน-บางซื่อ พื้นที่ศักยภาพศูนย์กลางคมนาคมใหม่
ผู้ประกอบการระดับกลางอย่างบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) มีความเคลื่อนไหวลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวราบและอาคารสูงในรูปแบบคอนโดมิเนียม เมื่อไม่นานมานี้ได้ร่วมทุนกับกลุ่มฮันคิว ผู้ประกอบการอสังหาฯจากญี่ปุ่น พัฒนาคอนโดฯใหม่หลายทำเล ล่าสุดเปิดทำเลเตาปูน-บางซื่อศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวว่าบริษัท เสนา- ฮันคิว 1 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเสนาฯกับบริษัท ฮันคิว เรียลตี้จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในญี่ปุ่น หนึ่งในกลุ่มฮันคิว (Hankyu Hanshin Holding Group) หลังจากพัฒนาโครงการร่วมกันโครงการแรก “นิช โมโน สุขุมวิท – แบริ่ง” เมื่อปีที่ผ่านมา ได้กระแสการตอบรับดีมากจากตลาดกลุ่มเป้าหมาย ส่วนหนึ่งเกิดจากนวัตกรรมจากญี่ปุ่นที่นำมาใช้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Geo fit+” การออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัว ลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศญี่ปุ่นและเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่นำนวัตกรรมดังกล่าวเข้ามาใช้ ล่าสุดเสนา-ฮันคิว ได้เปิดโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ “นิช ไพรด์ เตาปูน – อินเตอร์เชนจ์” เป็นการพัฒนาที่ดินกว่า 3 ไร่เศษ ติดรถไฟฟ้าสถานีเตาปูน ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 38 ชั้น 1 อาคาร ประกอบด้วยห้องชุด 742 ยูนิต พร้อมอาคารพาณิชย์ สูง 2 ชั้น 1 อาคาร โดยมีให้เลือก 3 แบบ คือ แบบ 1 Bedroom ขนาด 28 -32 ตารางเมตร ,แบบ 1 bedroom plus ขนาด 34.50 ตารางเมตร และ แบบ 2 Bedroom ขนาด 49 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 3.2 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 1.3 แสนบาท รวมมูลค่าโครงการ 3,400 ล้านบาท
ด้านการออกแบบที่อยู่อาศัยตามแบบฉบับญี่ปุ่น สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ลงตัว ภายใต้แนวคิดการออก “My Select” นวัตกรรมจากญี่ปุ่น ที่เปิดให้ลูกค้าเลือกฟังก์ชั่นและปรับเปลี่ยนได้ ไม่ว่าจะเป็น Working Zone สาหรับคนที่ชอบพื้นที่ในการสร้างสรรค์งาน หรือ Relaxing Zone สาหรับคนที่ต้องการพักผ่อนจากความวุ่นวาย และพักอาศัยในห้องชุดเพื่อชาร์จพลัง
อีกหนึ่งไฮไลท์ของสาธารณูปโภคในโครงการ และนับเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาฯ คือการพัฒนา “พื้นที่ส่วนกลางกว่า 30 ชั้น” ที่จัดให้เลือกกิจกรรมกว่า 7 ไลฟ์สไตล์แตกต่างกันไปทั้งกิจกรรม Active & Passive ไม่ว่าจะเป็น Sky Fitness ห้องออกกำลังกายลอยฟ้าพร้อม Sky Garden ชมสวนสาธารณะพร้อมวิวเมือง, Sky Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือยาวเกือบ 50 เมตร, Sky Lounge, Mini-Theater, Co-Working Space, Kid Club, Yoga Room, Party Room & Recreation Game Room เป็นต้น
เจาะทำเล“เตาปูน-บางซื่อ”ศูนย์กลางการคมนาคม
รถไฟฟ้าหลายเส้นทางที่กำลังดำเนินงานก่อสร้างในปัจจุบัน จะเป็นตัวแปรที่ส่งผลให้เกิดทำเลศักยภาพอีกหลายพื้นที่ ในจำนวนนี้ “เตาปูน-บางซื่อ” เป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าติดตาม ที่ผ่านมามีโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม เกิดขึ้นบนทำเลนี้ เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตในอนาคต ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2561 คือโครงการ “นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์” ของบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ที่ชูจุดขายหลักการตั้งอยู่ในทำเลศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่ของย่าน เตาปูน-บางซื่อ ดูได้จากชื่อโครงการที่พ่วงท้ายว่า เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์
อย่างไรก็ตามทำเลเตาปูนไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มเสนาฯ ก่อนหน้านี้มีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังหลายราย รุกเข้ามาพัฒนาโครงการในทำเลนี้ นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่า การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในย่านเตาปูน-บางซื่อ นับตั้งแต่ปี 2552 ถึง ณ สิ้นไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 มีจำนวนอุปทานสะสมทั้งสิ้นประมาณ 30,200 หน่วย มีอัตราการขายสะสม 90 % ของจำนวนอุปทานสะสมรวม จะเห็นได้ว่ามีโครงการเปิดตัวจำนวนมาก และการขายก็สามารถตอบสนองได้จำนวนมากเช่นเดียวกัน
นับจากนี้ไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทำเลเตาปูน-บางซื่อจะถูกพลิกโฉมกลายเป็นสถานีศูนย์กลางระบบขนส่งมวลชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปีใน 2563 และเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางซื่อ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีเตาปูนในปลายปี 2560 ที่ผ่านมา เป็นตัวช่วยเพิ่มศักยภาพด้านทำเลที่อยู่อาศัยในบริเวณเตาปูน-บางซื่อเป็นอย่างมาก ผนวกกับแนวคิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน Transit Oriented Development (TOD) ครอบคลุมพื้นที่เชิงพาณิชย์กว่า 300 ไร่ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ดินรอบสถานีรถไฟในรูปแบบ Mixed-use Development โดยจะมีรถไฟฟ้าถึง 4 สายที่เชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อในอนาคต ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีแดงเข้ม และสายสีแดงอ่อน
นอกจากรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายแล้ว สถานีกลางบางซื่อยังเป็นสถานีต้นทางของรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ระยะทาง 670 ก.ม และกรุงเทพฯ – หนองคาย ระยะทาง 615 ก.ม. อีกทั้งยังมีส่วนต่อขยาย Airport Rail Link 5 สถานีจากสถานีพญาไท เชื่อมต่อไปยังสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ
นอกจากมีการพัฒนาด้านขนส่งคมนาคมแล้วยังมีโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่นำมาซึ่งการพัฒนาโครงการพื้นฐานอื่นๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ การขยายช่องทางจราจร และการก่อสร้างถนนเพิ่มเติมในอนาคต และยังมีโครงการศูนย์การค้า “เกตเวย์ บางซื่อ” ของกลุ่มทีซีซี ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท มีพื้นที่รองรับร้านค้าปลีกกว่า 40,000 ตารางเมตร ห่างจากสถานีเตาปูนเพียง 650 เมตร คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2561
นอกจากนี้ สถานีกลางบางซื่อ (ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน) ยังจะถูกพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบ ( Smart City ) ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตัลต่างๆ และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มอบหมายให้กระทรวงและหน่วยงานภาครัฐอื่นๆทีเกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคเอกชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่สนใจเป็นหน่วยงานร่วมสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะต้นแบบ (Smart City) อันจะส่งผลด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ด้านราคาขายอสังหาริมทรัพย์ทำเลเตาปูน-บางซื่อ มีระดับราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของโครงการเกรดเอ ที่เปิดตัวในย่านนี้อยู่ที่ประมาณ 117,000 บาท ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยสูงสุดต่อตารางเมตรสูงถึง 134,000 บาท โดยทุกโครงการตั้งอยู่ในรัศมีไม่เกิน 300 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน
โครงการพัฒนาย่านเตาปูน-บางซื่อเป็นโครงการที่เป็นทางเลือกของผู้ซื้อคอนโดพักอาศัยทดแทน โครงการเกรดเอในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง อย่างพหลโยธินตอนต้นถึงรัชโยธิน ที่มีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตร ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 162,000 บาทโดยประมาณ และราคาขายสูงสุดต่อตารางเมตรสูงถึง 218,000 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าโครงการที่อยู่ย่านเตาปูน-บางซื่อถึง 40%
ตลาดคอนโดมิเนียมย่านเตาปูน-บางซื่อจะได้รับอนิสงค์เชิงบวกจากการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ โครงการเมืองอัจฉริยะและโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์บริเวณโดยรอบสถานีขนส่ง (TOD) อย่างมากในอนาคต รวมถึงปัจจัยเกื้อหนุนในด้านคมนาคมแบบครบวงจร เชื่อมต่อกับสายรถไฟฟ้าหลายสาย เดินทางเข้าสู่กลางเมืองได้อย่างสะดวก แนวโน้มราคามีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากความต้องการคอนโดมิเนียมที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น