Business

‘เซ็นทรัลรีเทล’ รวบค้าปลีก 3 ประเทศ ก้าวสู่ยุทธศาสตร์ ‘นิวเซ็นทรัล นิวรีเทล’ องค์กรค้าปลีก 240,297 ล้าน

หลังจาก บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ของเมืองไทย ได้ใช้เวลา 3 ปีที่ผ่านมา ในการปรับโครงสร้างธุรกิจทั้งการดำเนินธุรกิจจากระบบครอบครัวสู่ระบบสากลที่มีมืออาชีพจากภายนอกเข้ามาร่วมบริหาร การขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง และการสร้างแพลตฟอร์มธุรกิจใหม่สู่ออมนิชาแบล จนกระทั่งล่าสุด ได้รวมธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัล ในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี มาอยู่ภายใต้การดำเนินงานและบริหารของเซ็นทรัล รีเทล

เซ็นทรัล 2

ล่าสุดได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อขอนำบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อนำบริษัท บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทน เพื่อสร้างโอกาสและศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งได้ภายในปลายปี 2562 นี้

ความยิ่งใหญ่ของ เซ็นทรัล รีเทล เห็นได้จากการปักธงดำเนินธุรกิจค้าปลีกมานานถึง 72 ปี ปัจจุบัน มีสาขาทั้งห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเฉพาะทาง ยุรวมถึงจุดขายในเครือทั้งในและต่างประเทศรวม 3,936 สาขา ในจำนวนนี้เป็นสาขาในเวียดนาม 125 สาขาและอิตาลี 9 สาขา​ (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562) มีรายได้รวม 240,297 ล้านบาท และเติบโตเฉลี่ยปีละ 8% หรือเติบโตมากกว่าจีดีพี 1.8 – 2.2 เท่าต่อเนื่อง

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า อาณาจักรค้าปลีกของเซ็นทรัล รีเทล เริ่มจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของธุรกิจครอบครัวเมื่อ 72 ปีก่อน ที่เรามุ่งมั่นในการนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งใหม่ ๆ ที่สามารถครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกและเทรนด์เซ็ตเตอร์ โดยเป็นผู้ริเริ่มการทำห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทย ไปจนถึงการทำธุรกิจค้าปลีกแบบ Multi-format ผ่านการเปิดร้านค้าเฉพาะทางและธุรกิจค้าปลีกหลายรูปแบบ และปัจจุบันได้

ทั้งนี้ นโยบายของกลุ่มเซ็นทรัล จะมุ่งนำบริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยเหตุผลที่ว่า การเป็นบริษัทจดทะเบียนฯ จะสร้างโอกาสทั้งการหาพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งได้ง่ายขึ้น มีโอกาสในการสรรหาคนเก่งเข้ามาร่วมธุรกิจ และต่อยอดธุรกิจได้ง่ายขึ้น

ที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้นำบริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในปี 2533 จนถึงปี 2562 เติบโตถึง 29 เท่าตัว มีรายได้เพิ่มจาก 1,600 ล้านบาทในปี 2533 เป็น 46,575 ล้านบาทในปี 2562 และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา (จำกัด) มหาชน ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์และพื้นที่ค้าปลีก เข้าตลาดฯ ในปี 2538 ปัจจุบันเติบโตถึง 37 เท่ามียอดขายเพิ่มจาก 8,900 ล้านบาท เป็น 332,112 ล้านบาทในปี 2562

43047

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล กล่าวเพิ่มเติมว่า ก้าวเดินของเซ็นทรัล รีเทล หลังจากนี้ จะมุ่งสู่ยุคของ นิวเซ็นทรัล นิวรีเทล เพื่อนำไปสู่ความพร้อมในการต่อยอดและยกระดับศักยภาพการแข่งขันและเติบโตครั้งใหม่ ที่เรียกว่า เซ็นทรัล รีเทล อีโคโนมี ซึ่งประกอบด้วย 3 หัวใจหลัก ได้แก่ 1. Business Highlights ความโดดเด่นในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีก 2. Thriving Ecosystem ระบบนิเวศที่เชื่อมโยงแต่ละโมเดลทางธุรกิจเข้าไว้ด้วยกันจนนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ 3. Clear Positioning to Win กลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้

“เซ็นทรัล รีเทล มีโมเดลการดำเนินธุรกิจที่มีเอกลักษณ์จากธุรกิจค้าปลีก ซึ่งครอบคลุม 3 กลุ่มหลัก คือ แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ ฟู้ด (Multi-category) ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้เราได้พัฒนา ต่อยอด และเชื่อมทุกประสบการณ์ช้อปปิ้งของลูกค้า ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เรียกว่า Central Retail Experience”นายญนน์กล่าว

ปัจจัยที่เกื้อหนุนการเติบโตของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทลนับจากนี้ จะมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจ แม้ว่า จีดีพี ประเทศจะลดลง แต่สำหรับกำลังซื้อกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงเติบโต รวมถึงการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทยทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและการเป็น 1 ใน 20 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก และการปรับระบบการบริหารงานจากครอบครัวสู่สากล ตลอดจนการมีธรรมาภิบาล

43054

อีกสิ่งสำคัญที่กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล วางเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างการเติบโตยุค ดิจิทั อีโคโนมี และสอดรับกับนโยบาย นิวเซ็นทรัล นิวรีเทล คือ การมุ่งสู่ออมนิชาแนลเต็มรูปแบบ ภายใต้ “Customer-Centric Omnichannel Platform” แพลตฟอร์มที่ยึดโยงลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร้รอบต่อ ทั้งในช่องทางออฟไลน์หน้าร้าน และออนไลน์ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การสร้างประสบการณ์และความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ

“ค้าปลีกของเซ็นทรัลทั้งกายภาพและดิจิทัล จะทำให้ระบบนิเวศน์ของเราสมบูรณ์ขึ้น โดยเฉพาะการวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้าที่มีกว่า 27 ล้านรายทั่วโลก ร่วมกับการใช้เทคโนโลยี แมชชีน เลิร์นนิ่ง การพัฒนาบริการใหม่ ๆ อาทิ Chat & Shop, e-ordering, Click & Delivery, Click & Express,
e-payment ฯลฯ รวมทั้งระบบการจ่ายเงินออนไลน์ในทุกรูปแบบ อาทิ QR code, E-wallet, Scan and Pay, Pay Now Pay Later ที่เราเชื่อว่าจะเป็นคำตอบสำหรับผู้บริโภคทุกคนที่ทั้งมีตัวเลือกสินค้าที่มากกว่า ถูกใจและตรงใจมากกว่า และสะดวกสบายมากกว่า” ญนน์กล่าวย้ำ

Avatar photo