Business

‘ภาวะตำแหน่งงานเฟ้อ’ ข้อจำกัดในการดึงดูด-รักษาพนักงานบริษัทในประเทศไทย

ภาวะตำแหน่งงานเฟ้อ หมายถึง แนวทางปฏิบัติของบริษัทต่างๆ ในการนำเสนอตําแหน่งงานที่สูงเกินจริง ซึ่งอาจไม่สะท้อนถึงหน้าที่ความรับผิดชอบจริง ความอาวุโส หรือแม้แต่อัตราเงินเดือนที่แท้จริงของตําแหน่ง

ในช่วงปีที่ผ่านมา ชื่อตำแหน่งงานในตลาดแรงงานไทยมีความเฟ้อขึ้นอย่างมาก โดยตำแหน่งที่ขึ้นต้นด้วย ผู้อำนวยการ เพิ่มขึ้นถึง 24% และตำแหน่งที่ขึ้นต้นด้วย หัวหน้าแผนก ที่มีประสบการณ์เพียง 2 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นถึง 16%

ภาวะตำแหน่งงานเฟ้อ

ทั้งนี้ ชื่อตำแหน่งงานที่สูงเกินจริงเหล่านี้ถูกนำมาใช้ เพื่อช่วยดึงดูดผู้สมัครในตลาด และช่วยรักษาพนักงานให้อยู่กับบริษัท

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์เหล่านี้ควรได้รับการทบทวนอย่างรอบคอบ หากนำมาใช้ในการจ้างงาน เนื่องจากอาจสร้างปัญหาให้กับทั้งบริษัทและพนักงานในภายหลังได้ สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในข้อสังเกตและข้อมูลเชิงลึกจากโรเบิร์ต วอลเทอร์ส ประเทศไทย เกี่ยวกับแนวโน้มภาวะตำแหน่งงานเฟ้อ

การใช้ชื่อตำแหน่งงานที่สูงเกินจริงเพื่อดึงดูดและรักษาพนักงาน

ชื่อตำแหน่งงานและการเลื่อนตำแหน่งเป็นสิ่งที่พนักงานให้ความสำคัญ จากผลสํารวจความคิดเห็นทาง LinkedIn ที่จัดทําโดย โรเบิร์ต วอลเทอร์ส ประเทศไทย ในเดือนมกราคม 86% ของพนักงานยอมรับว่าตําแหน่งงานมีความสําคัญมากต่อการสมัครงาน และในบรรดาพนักงานรุ่นใหม่ 36% คาดหวังว่าจะได้รับการเลื่อนตําแหน่งภายใน 18 เดือนหลังจากทํางานในบริษัท

นอกจากนี้ ยังพบว่า เกือบครึ่งหนึ่ง (50%) ของบริษัทที่ทําการสํารวจได้ใช้กลยุทธ์ในการตั้งชื่อตำแหน่งสูงๆ เพื่อดึงดูดผู้สมัครงานซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี แต่มีเพียง 6% เท่านั้นที่ได้ใช้แนวทางที่คล้ายกันโดยไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญ อย่างไรก็ตาม 40% ของบริษัทที่ทําแบบสํารวจยังไม่เคยใช้แนวทางนี้

การใช้ชื่อตำแหน่งงานที่สูงเกินจริงเช่นนี้ ไม่ได้สะท้อนถึงความอาวุโสในมุมมองของพนักงาน หากแต่เป็นบทบาทที่เกี่ยวข้อง เช่น การบริหารทีม (56%) และความสำคัญในหน้าที่ (39%) ต่างหากที่เป็นปัจจัยสําคัญที่บ่งบอกถึงความอาวุโส

ในทางตรงกันข้าม มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ (6%) เท่านั้นที่คิดว่าตําแหน่ง C-Suite/ หรือขึ้นต้นด้วยคำว่า Head-of ที่บ่งบอกถึงความอาวุโสอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าการได้รับชื่อตําแหน่งงานที่สูงเกินจริงอาจเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่การเป็นผู้นําทีมและความสําคัญของบทบาทนั้นมีน้ําหนักในการกําหนดความอาวุโสมากกว่าตําแหน่ง

ปุณยนุช ศิริสวัสดิ์วัฒนา ผู้จัดการโรเบิร์ต วอลเทอร์ส ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การตั้งชื่อตำแหน่งงานที่สูงมีประโยชน์ในการช่วยดึงดูดผู้สมัครที่กำลังมองหาความก้าวหน้าทางอาชีพ แนวทางดังกล่าวช่วยสร้างเส้นทางการเติบโตในบริษัทที่มากขึ้น ส่งเสริมต่อการเลื่อนตำแหน่งและส่งผลต่อการรักษาพนักงานให้อยู่กับบริษัท

ปุณยนุช ศิริสวัสดิ์วัฒนา
ปุณยนุช ศิริสวัสดิ์วัฒนา

อย่างไรก็ตาม หากพนักงานได้รับตําแหน่งงานที่สูงเกินจริง โดยไม่ได้ทํางานที่สอดคล้องกับชื่อตำแหน่งอย่างแท้จริง และภายหลังได้ไปทำงานที่บริษัทอื่นที่ต้องการความรับผิดชอบ ที่สอดคล้องกับตําแหน่งที่สูงเกินจริงนี้ อาจทำให้เกิดความคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกัน และบั่นทอนความมั่นใจของพวกเขา

นัฐติยา ซอล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ทรัพยากรบุคคล ซัพพลายเชนและวิศวกรรม และฝ่ายอีสเทิร์น ซีบอร์ด บริษัทโรเบิร์ต วอลเทอร์ส ประเทศไทย ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การนําตําแหน่งงานที่สูงเกินจริงมาใช้ ทําให้พนักงานเกิดความสับสนในการทําความเข้าใจบทบาทและความรับผิดชอบของตนเอง และยังสร้างความไม่พอใจให้กับพนักงาน เนื่องจากถูกมองว่าความรับผิดชอบที่แท้จริงไม่ตรงกับความอาวุโสของตําแหน่ง

นัฐติยา ซอล
นัฐติยา ซอล

จากมุมของนายจ้าง แนวทางนี้อาจสร้างความลำบากในการวางแผนความก้าวหน้าในอาชีพพนักงาน เนื่องจากต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับทักษะและประสบการณ์ที่จําเป็น ในตําแหน่งงานที่สูงขึ้น ตําแหน่งงานที่เฟ้อเกินจริงอาจส่งผลเสียต่อการระบุและระบบบริหารจัดการผู้สืบทอดตำแหน่ง

นอกจากนี้ หากผู้สมัครพบว่าตําแหน่งงานและความรับผิดชอบจริงไม่ตรงกัน ก็อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทได้เช่นกัน

แนะฝ่ายการจ้างงานประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ

โรเบิร์ต วอลเตอร์ส แนะนําให้ผู้จัดการฝ่ายการจ้างงานประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจใช้กลยุทธ์การตั้งชื่อตําแหน่งงานที่สูงเกินจริง แม้ว่าในบางสถานการณ์อาจมีความจำเป็น แต่สิ่งสําคัญคือต้องชั่งน้ําหนักข้อดีและข้อเสียอย่างละเอียดและทําความเข้าใจผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัท

การกําหนดบทบาทและความรับผิดชอบที่ชัดเจน ควบคู่ไปกับชื่อตําแหน่งงานที่ถูกต้องเป็นสิ่งสําคัญ เพราะจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo