Business

‘ภูมิธรรม’ ถกรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ ขอต่ออายุโครงการ GSP ปลดไทยพ้นบัญชี WL

“ภูมิธรรม” หารือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ยันไทยพร้อมเป็นฐานการผลิตให้สหรัฐ ในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ สบช่องขอให้ต่ออายุโครงการ GSP ที่หมดไปตั้งแต่ปี 2563 และปลดไทยพ้นบัญชี WL ด้านทรัพย์สินทางปัญญา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนางจีนา เอ็ม. เรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ พร้อมด้วยสภาผู้ส่งออกแห่งประธานาธิบดีสหรัฐ (The President’s Export Council : PEC) ว่า เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกัน โดยเน้นย้ำว่าไทยและสหรัฐ เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ และมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาเป็นเวลานานกว่า 190 ปี และพร้อมร่วมมือส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน

ภูมิธรรม

สำหรับการหารือครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่ได้นำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญของไทยแก่สหรัฐ  อาทิ นโยบาย Soft Power การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ การสร้างดุลยภาพของผลประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้บริโภค การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยการร่วมขับเคลื่อนนโยบาย Digital Wallet การส่งเสริม MSMEs การผลักดันการส่งออก ตลอดจนการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ของไทย รวมทั้งการมุ่งแก้ไขและปรับปรุงข้อจำกัดทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคทางการค้าเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถ และโอกาสทางธุรกิจของภาคเอกชน

ขณะเดียวกัน ไทยได้ยืนยันว่า พร้อมเป็นพันธมิตรด้านเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะการเป็นฐานการผลิตในห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมัยใหม่  เช่น ดิจิทัล AI อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด การบิน ยาและเวชภัณฑ์ และสหรัฐ ก็พร้อมสนับสนุนภาคเอกชนของสหรัฐ ให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น

พร้อมกันนี้ ไทยได้แสดงความยินดีต่อการเจรจาความตกลง IPEF ซึ่งมีความก้าวหน้าที่ดีในปี 2566 ที่ผ่านมา และพร้อมร่วมมือกับสหรัฐ และประเทศหุ้นส่วนในการเจรจาเพื่อหาข้อสรุปความตกลง IPEF ร่วมกันในเสาที่ 1 เรื่องการค้า (Pillar 1 Trade) ซึ่งสหรัฐ พร้อมที่จะขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้ IPEF ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานกับไทยและประเทศในภูมิภาคต่อไป

ภูมิธรรม

นอกจากนี้ ได้ขอให้สหรัฐ พิจารณาเร่งรัดการต่ออายุการให้สิทธิ GSP ที่ได้หมดอายุไปเมื่อปลายปี 2563 ให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ อีกทั้งได้แสดงให้สหรัฐ เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยในการพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาในด้านต่าง ๆ รวมถึงการตอบสนองต่อทุกข้อกังวลของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้สามารถปรับสถานะของไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List : WL) และจากทุกบัญชีให้ได้ต่อไป

การหารือในวันนี้เป็นบวก สหรัฐ เชื่อมั่นในรัฐบาลไทย และยินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้คุยกัน ทำให้เกิดความเข้าใจกันเป็นอย่างดี อยากสร้างความสัมพันธ์และยกระดับ ซึ่งท่านรัฐมนตรีจะมาผลักดันเองให้สิ่งที่คุยกันวันนี้ให้เป็นจริง เป็นนิมิตหมายอันดีที่เรามีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นและรู้ใจกัน การร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก

ในปี 2566 สหรัฐ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 2 ของไทย โดยมีมูลค่าการค้ารวม 68,358.31 ล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐ 48,864.54 ล้านดอลลาร์

ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ

ขณะที่สหรัฐ เป็นแหล่งนำเข้าลำดับ 3 ของไทย มีมูลค่าการนำเข้าจากสหรัฐ 19,493.77 ล้านดอลลาร์ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo