“นฤมล” ย้ำ รัฐบาลเศรษฐา ดึงบริษัทยักษ์ใหญ่-สตาร์ทอัพ ลงทุนอุตสาหกรรมดิจิทัล รองรับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 5 รับยุค Personalized Economy ดันไทยศูนย์กลางในภูมิภาค
ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย ให้สัมภาษณ์ถึงวัตถุประสงค์ของการดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่อุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลในภูมิภาค ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อเตรียมรองรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การปฎิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 5 หรือ the 5th Industrial Revolution (5IR)
ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า การปฎิวัติอุตสากรรมครั้งที่ 4 หรือ 4IR ค่อย ๆ เกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณปี 2563 เกิดเป็น Digital Economy ที่ครอบคลุมเทคโนโลยีใหม่ในขณะนั้น เช่น ioT, AI, Robotics, Blockchain, Biotechnology, Quantum Computing
รัฐบาลไทยในสมัยนั้นจึงใช้ยุทธศาสตร์ ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิดิจิทัล และเปลี่ยนกระทรวง ICT เป็น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงขยายขอบเขตภารกิจความรับผิดชอบให้กว้างขึ้นตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ที่มากไปกว่าแค่เรื่องของ Information and Communications Technologies (ICT)
จากนั้น ได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่อง จนประเทศไทยอยู่ในแนวหน้าของภูมิภาคด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ในขณะเดียวกัน ได้มีการสนับสนุนการลงทุนในเรื่อง Big Data ทั้งของภาครัฐและเอกชน และส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล ทั้งที่ระดับหลักสูตรของสถาบันการศึกษาและการอบรมทั้ง reskill and upskill สำหรับแรงงานไทย
ผู้แทนการค้า ระบุว่า ปี 2566 ข้อมูลจาก World Bank แสดงสัดส่วนอุตสาหกรรมดิจิทัลนับเป็น 15% ของ GDP โลก และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็น 30% ของ GDP โลกภายในปี 2573 จากความกังวลที่คิดว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้คนตกงาน การคาดการณ์กลับพบว่า เมื่อเข้าสู่ the 5IR ที่ Digital Economy จะกลายเป็น Re-humanized หรือ Personalized Economy ที่เทคโนโลยี 4IR จะกลับมาสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้มนุษย์ในหลากหลายมิติ
ตัวอย่างเช่น การสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นจากการออกแบบเฉพาะรายบุคคลให้กับลูกค้า การรักษาพยาบาลที่ออกแบบเฉพาะรายบุคคลเพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งการศึกษาที่ออกแบบเฉพาะรายบุคคลเพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ดีที่สุด ทั้งหมดนี้ จะเกิดการลงทุนในธุรกิจรูปแบบใหม่จำนวนมาก ที่คาดว่าจะนำไปสู่การจ้างงานใหม่ถึง 30 ล้านตำแหน่ง
ดังนั้น เพื่อให้ประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการไทยและแรงงานไทย ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรม 5IR นี้ รัฐบาลจึงพยายามดึงดูดเงินลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่และบริษัทสตาร์ทอัพในห่วงโซ่อุปทานของ 5IR ให้มากขึ้น เพื่อสร้าง ecosystem สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 5
ทั้งนี้ ในฐานะผู้แทนการค้า จึงได้หารือและชักชวนบริษัทด้าน Data center และ Data Analytics เข้ามาลงทุนในไทยให้มากขึ้น เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะข้อมูลกับการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญสำหรับ Personalized Economy ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นฤมล’ ร่วมดัน ‘ไผ่’ พืชเศรษฐกิจใหม่ ใช้ ‘PPPP-กองทุนสีเขียว’ เพิ่มรายได้เกษตรกร โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ
- ‘นฤมล’ เผย ‘หัวหน้าทีมไทยแลนด์’ ดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศพุ่งกระฉูด 72%
- ‘นฤมล’ เผยส่งออกสินค้าเกษตรไปจีนโตต่อเนื่อง
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg