อย. จับมือ ส.อ.ท. ยกระดับ “ผลิตภัณฑ์สุขภาพ” ด้วยระบบ “บาร์โค้ด 2 มิติ” ตรวจสอบย้อนกลับ ป้องกันการปลอมแปลง
นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับสถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพร่วมกัน
โดยร่วมมือกันส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในประเทศ มีการใช้งานรหัสบาร์โค้ดตามมาตรฐานสากล GS1 บนผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ และติดตามการกระจายของผลิตภัณฑ์ สุขภาพ ได้อย่างเป็นระบบ
ใช้ระบบมาตรฐานสากล GS1 (QR Code)
นายแพทย์ไพศาล เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสถาบันรหัสสากล ได้ร่วมมือกันใช้มาตรฐานสากล GS1 ในหลายผลิตภัณฑ์ โดยในปี 2563 ได้มีการใช้กับผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับและติดตามการกระจายในระดับรายชิ้นไ ด้ตลอดห่วงโซ่อุปทานทั่วทั้งในประเทศและต่างประทศ
รวมไปถึงในปี 2564 ได้จัดทำคู่มือเพื่อเป็นคำแนะนำเบื้องต้นในการใช้มาตรฐานสากล GS1 สำหรับใช้ติดตามการกระจายวัคซีนโควิด-19 และตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัยของวัคซีน
นอกจากนี้ ในปี 2566 ยังได้นำมาตรฐานสากล GS1 (QR Code) มาใช้ในการจัดการฉลากยาอิเล็กทรอนิคส์ (e-Labelling) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยา เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และรวดเร็ว
พัฒนาระบบบาร์โค้ด 2 มิติ ตรวจสอบยอนกลับ ป้องกันการปลอมแปลง
สำหรับในระยะต่อไป ทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมมือกันพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับ และการป้องกันการปลอมแปลงของผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ โดยจะร่วมมือด้านวิชาการและเทคนิคมาตรฐานต่าง ๆ ในการประยุกต์ใช้สัญลักษณ์บาร์โค้ดแบบ 1 มิติ และ 2 มิติ เพื่อใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงในการกำหนดกฎหมายและข้อบังคับด้าน Coding & Serialization ของผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างปลอดภัย และเกิดประสิทธิภาพสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับ และป้องกันการปลอมแปลง เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค และยกระดับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ สุขภาพของประเทศ ให้มีมาตรฐานสู่ระดับสากล
หนุนใช้มาตรฐานสากลใน 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศ
ด้าน นายเกรียงไกร กล่าวว่า เพื่อเตรียมความพร้อมให้อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ สุขภาพของประเทศไทย มีศักยภาพและต่อยอดขีดความสามารถให้แข่งขันกับตลาดทั้งในและต่างประเทศ เป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และให้คนไทยมีโอกาสที่จะได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพ ปลอดภัย
จึงเป็นที่มาของการกำหนดแนวทางความร่วมมือร่วมกันของ ส.อ.ท. และ อย. ผ่านการทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนครั้งนี้
โดย ส.อ.ท. จะเร่งส่งเสริมและผลักดันยกระดับคุณภาพในการผลิตของสมาชิก ส.อ.ท. ทั้ง 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 11 คลัสเตอร์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ สุขภาพ ให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “One FTI” (One Vision, One Team, One Goal) และจะขับเคลื่อนการนำระบบมาตรฐานสากล GS1 ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านหน่วยงานสถาบันรหัสสากล หรือ GS1 Thailand
เพื่อช่วยให้ห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ สุขภาพ เกิดความโปร่งใส เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อย. เตือน! ตรวจพบ ‘สารต้องห้าม’ ใน ‘เครื่องสำอาง’ 3 รายการ จากร้านค้าออนไลน์
- อย. เข้ม ‘โฆษณาเครื่องมือแพทย์เสริมความงาม’ ผิดกฎหมาย ย้ำโทษหนัก คุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่น
- อย. เตือน! ห้ามใช้ ATK หมดอายุหรือเสื่อมสภาพ ป้องกันผลคลาดเคลื่อน