Business

สนค. หนุน ‘เศรษฐกิจสีม่วง’ เพิ่มงาน-รายได้ผู้หญิง ส่งเสริมความเสมอภาค

สนค. เผย “เศรษฐกิจสีม่วง”  มีแนวโน้มเติบโตขึ้น เพิ่มบทบาทผู้หญิงให้มีงานทำ มีรายได้ ส่งเสริมความเสมอภาค “พาณิชย์” พร้อมหนุนผู้หญิงทำมาค้าขาย  

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทั่วโลกได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การขยายตัวของสังคมเมืองและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้วัยแรงงานมีภาระต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น

เศรษฐกิจสีม่วง

อย่างไรก็ตาม การดูแลผู้อื่น จัดเป็นงานบริการที่ไม่ได้ค่าจ้าง และส่วนใหญ่เป็นแรงงานผู้หญิง โดยองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization) ได้รายงานว่า ในปี 2561 ทั่วโลกมีแรงงานที่ต้องทำงานพร้อมกับดูแลผู้อื่น โดยไม่ได้รับค่าจ้าง เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า

ตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงต้องดูแลคนในครอบครัว พร้อมกับทำงานนอกบ้านควบคู่กัน สะท้อนถึงภาระของผู้หญิงที่เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นที่มาของเศรษฐกิจสีม่วง (Purple Economy) หรือเศรษฐกิจแห่งการดูแล

ขณะที่ องค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ให้คำนิยามของ เศรษฐกิจสีม่วงว่า เป็นแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่ตระหนักถึงความสำคัญของงานบริการดูแลผู้อื่น (Care Work) ความเท่าเทียมทางเพศ และการเพิ่มบทบาทของผู้หญิงในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

ปัจจุบันหลายภาคส่วนได้นำแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสีม่วง เข้ามาช่วยวัยแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานผู้หญิง ให้มีงานทำและมีรายได้ และดึงศักยภาพของผู้หญิงที่สามารถสร้างประโยชน์ในมิติเชิงเศรษฐกิจและสังคม และยังช่วยขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 5 ความเท่าเทียมระหว่างเพศ

พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์
พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์

จากรายงานของ McKinsey Global Institute คาดการณ์ว่า ถ้าตลาดแรงงานมีความเท่าเทียมระหว่างเพศมากขึ้น จะทำให้ทั่วโลกมี GDP เพิ่มขึ้นประมาณ 12 ล้านล้านดอลลาร์หรือคิดเป็น 11% ภายในปี 2568 และจะส่งผลให้แต่ละครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นายพูนพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจสีม่วงและการจ้างงานผู้หญิง เช่น รวันดา มีนโยบายส่งเสริมให้ผู้หญิงมีบทบาททั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง สิงคโปร์ให้การสนับสนุนทางการเงินและพัฒนาทักษะให้กับผู้หญิง และไอซ์แลนด์ออกกฎหมายแรงงานให้มีความเท่าเทียม

สำหรับไทย สถานการณ์ความเสมอภาคระหว่างเพศชายและหญิงของไทยปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยดัชนีความไม่เสมอภาคทางเพศ (Gender Inequality Index : GII) ในปี 2564 ไทยมีคะแนน 0.333 ดีขึ้นจาก 0.419 ในปี 2559 แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการเรื่องความเสมอภาคทางเพศที่ดีขึ้นของสังคมไทยที่ให้ความสำคัญกับผู้หญิง และส่งเสริมให้ผู้หญิงมีงานทำและมีรายได้

กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายเกี่ยวกับการค้า การลงทุน และการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน รวมทั้งให้มีความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคที่เข้มแข็ง โดยได้มุ่งเน้นการสร้างรายได้ให้ชุมชน ท้องถิ่นในทุกพื้นที่ เพื่อสร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องดูแลครอบครัว และมีรายได้ควบคู่ไปด้วย

Digital Village by DBD
โครงการ Digital Village by DBD

ที่ผ่านมา ได้ดำเนินโครงการสำคัญ เช่น โครงการสร้างชุมชนสู่ออนไลน์สร้างรายได้ธุรกิจ (Digital Village by DBD) ที่ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนให้สามารถวางแผนจัดจำหน่ายสินค้าในแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ ทำให้ผู้หญิงที่อยู่ในชุมชน ท้องถิ่นสามารถหารายได้และยังมีเวลาดูแลครอบครัว

นอกจากนี้ ยังมีตลาดเที่ยวได้สไตล์ไทย ๆ (Village to Town) ที่ส่งเสริมช่องทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์จากหมู่บ้านทำมาค้าขาย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มนำร่องที่เป็นแรงงานผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เช่น กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านคลองบ่อแสน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสตรีพัฒนาบ้านโพธิ์เมือง และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร บ้านนาป่าหนาด

กระทรวงพาณิชย์ตระหนักถึงความสำคัญ และมองเห็นศักยภาพของผู้หญิงที่ต้องทำงานและดูแลครอบครัว จึงมีนโยบาย และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้หญิงมีความภาคภูมิใจในการทำงาน มีรายได้ และสามารถดูแลคนในครอบครัวควบคู่ไปด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo