Business

ไมเนอร์ฯ ประกาศปี 2566 ธุรกิจ ‘Back to Growth’ จ่อเปิดขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ระดมเงินลงทุนเสริมแกร่ง

ไมเนอร์ฯ เผยปี 2565 เริ่มฟื้นตัว ประกาศเป้าหมายปีนี้ ลุย 3 กลุ่มธุรกิจหลัก “Back to Growth” รับอานิสงส์ท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์คึก พร้อมออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ชุดใหม่ ขยายธุรกิจต่อเนื่อง

นายดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ MINT ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากปัจจัยการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะก่อนการระบาดของโรคโควิด-19

ไมเนอร์ฯ

ทั้งนี้ เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ในไตรมาส 3 ปี 2565 ทุกกลุ่มธุรกิจในเครือไมเนอร์ ได้แก่ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ไมเนอร์ ฟู้ด และไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ รายงานความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับในปี 2562 ซึ่งเป็นระดับก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งผลประกอบการรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 สามารถพลิกฟื้นกลับมาเป็นบวก

สำหรับปี 2566 บริษัทพร้อมเดินหน้า กลับสู่การเติบโต (Back to Growth) อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการวางแผนกลยุทธ์ 3 ปี ซึ่งมุ่งเน้นในการเสริมสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และขยายพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพและอัตราการทำกำไร การผนึกกำลังพันธมิตรเพื่อการเติบโต รวมทั้งปรับปรุงศักยภาพด้านดิจิทัล บุคลากร และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

มร. ดิลลิป ราชากาเรีย
ดิลลิป ราชากาเรีย

บริษัทเตรียมความพร้อมต้อนรับการกลับมาเปิดพรมแดนระหว่างประเทศ และการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่าง ๆ ในฐานปฏิบัติการของบริษัททั่วโลก

ขณะที่ประเทศไทยคาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นจากราว 11 ล้านคนในปี 2565 เป็น 22 ล้านคนในปี 2566 โดยตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีก หลังจากการเปิดประเทศจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ และจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับมาคึกคัก อันเป็นผลดีต่อทุกกลุ่มธุรกิจของ MINT

ในส่วนของกลุ่มธุรกิจ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ในปี 2566 พบสัญญาณการเติบโตที่แข็งแกร่ง จากแนวโน้มการจองห้องพักล่วงหน้า ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีสัญญาณการชะลอตัว ของความต้องการของลูกค้าในการเดินทางพักผ่อน

ไมเนอร์ โฮเทลส์ กรุ๊ป

ทั้งนี้ บริษัทจะมีการเพิ่มอัตราการเข้าพักและการปรับขึ้นราคาห้องพักให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นภายหลังการยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทาง พร้อมขยายการให้บริการนักเดินทางกลุ่มธุรกิจ ควบคู่กับการผลักดันกลยุทธ์เชิงการตลาดให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ด้านกลุ่มธุรกิจ ไมเนอร์ ฟู้ด ยังคงมุ่งสร้างรายได้ผ่านทุกช่องทางการขาย ในขณะที่เสริมสร้างโครงสร้างต้นทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรโดยรวมต่อไป เช่นการพัฒนาร้านค้ารูปแบบใหม่ แพลตฟอร์มลอยัลตี้โปรแกรม ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการเป็นผู้นำทางด้านร้านอาหารและครองส่วนแบ่งตลาดต่อไป

ไมเนอร์ ฟู้ด Bonchon

ขณะที่กลุ่มธุรกิจไมเนอร์ ไลฟ์สไตล์ ได้มีการขานรับการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ โดยการดำเนินธุรกิจซึ่งมุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากขึ้น รวมถึงการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ผสมผสานได้อย่างกลมกลืน ระหว่างช่องทางหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ ผ่านการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ การตั้งราคา และการเพิ่มช่องทางการชำระเงิน ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้าเดิม เพิ่มลูกค้าใหม่ และการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า

ทั้งหมดนี้ MINT เชื่อมั่นว่าในปี 2566 ภาพรวมบริษัทจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการต่อยอดแรงหนุนจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นคงเพื่อการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจ ซึ่งจะสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทได้เป็นอย่างดี

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์

ด้าน นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไมเนอร์ กล่าวว่า MINT ได้เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดใหม่ ครั้งที่ 1/2566 ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้ในระดับ A แนวโน้มอันดับเครดิต คงที่ และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ชุดใหม่นี้ ในระดับ BBB+ โดยบริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด

ไมเนอร์ฯ คาดว่าจะเปิดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ชุดใหม่ แก่ประชาชนเป็นการทั่วไประหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์นี้ ผ่าน ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากแบรนด์ และทรัพย์สินที่มีคุณภาพสูง เพื่อสร้างรายได้ และผลักดันผลกำไรและผลตอบแทนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดได้อย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งผู้สนใจลงทุนสามารถติดต่อสถาบันการเงินทั้ง 11 แห่งได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo