World News

ดังทั่วโลก!! สื่อต่างชาติประโคมข่าวปัญหาฝุ่นพิษ – กทม.ปิดโรงเรียน

บรรดาสำนักข่าวต่างประเทศจำนวนมาก อาทิ บลูมเบิร์ก เดอะ การ์เดียน เซาท์ไชน่า มอร์นิง โพสต์ เอเอฟพี เอเชีย ไทมส์ และรอยเตอร์ ต่างพากันรายงานถึงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กของไทย และการที่ต้องปิดโรงเรียนในสัปดาห์นี้

n22

สำนักข่าวรายใหญ่ระดับโลก “ซีเอ็นเอ็น” รายงานถึงคำสั่งของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้ปิดโรงเรียนทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จากความกังวลถึงมลพิษทางอากาศระดับสูง จากปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่พุ่งสูงเกินระดับความปลอดภัยในพื้นที่ 41 แห่งโดยรอบกรุงเทพฯ

รายงานยังระบุว่า ดัชนีคุณภาพอากาศ (เอคิวไอ) ของกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเย็นวานนี้(31 ม.ค.) อยู่ที่ 175 ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานสำหรับคุณภาพทางอากาศที่มนุษย์สามารถหายใจเข้าไปได้ ที่ระดับต่ำกว่า 25 อย่างมาก

สำนักข่าวบีบีซี ของอังกฤษ ก็รายงานถึงเรื่องปัญหามลพิษทางอากาศที่ทำให้ต้องสั่งปิดโรงเรียนเช่นเดียวกัน ทั้งยังระบุด้วยว่า จนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังล้มเหลวในการจัดการกับปัญหาคุณภาพอากาศอยู่ แม้จะดำเนินความพยายามในหลายด้าน แต่ก็ให้ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการขอร้องไม่ให้จุดธูป หรือประทัด ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าด้วย

อย่างไรก็ดี บีบีซีระบุว่า มลพิษทางอากาศที่ย่ำแย่ในกรุงเทพมหานคร ยังไม่ร้ายแรงเท่ากับกรุงนิวเดลี ของอินเดีย ที่ปัจุบันมีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับประมาณ 390 ซึ่งเป็นระดับมลพิษที่เป็นอันตรายอย่างมาก

news11

ส่วนบทความของหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ บอกว่า กรุงเทพมหานครกำลังสำลักกับมลพิษทางอากาศอยู่ และว่า เมืองหลวงของไทย ก็เหมือนกับมหานครใหญ่ๆ ในเอเชีย ที่ติดอยู่ในอันดับเมืองที่มีมลพิษมากสุดของโลก

มลพิษทางอากาศของกรุงเทพมหานคร เกิดจากปัญหาหลายด้านรวมกัน ทั้งเรื่องไม่มีการตรวจสอบอุตสาหกรรม การพัฒนาเมือง ความคลั่งไคล้ในการใช้รถยนต์ แต่หละหลวมในเรื่องกฎระเบียบควบคุม ซึ่งการเผาพื้นที่เกษตร และฤดูแล้ง ที่มีลมเพียงเล็กน้อย ยิ่งทำให้วิกฤติรุนแรงขึ้น

ผู้เขียนบทความของนิวยอร์ก ไทมส์ ยังให้รายละเอียดถึงการใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานครว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะไม่มีฝนตก แต่เธอกลับตัวเปียกขณะเดินอยู่ริมถนนในเมืองหลวงของไทย จากการที่เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องพ่นน้ำ ในความพยายามที่จะบรรเทาให้หมอกควันเจือจางลง

เธอเล่าด้วยว่า สมัยที่ย้ายออกมาจากกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนเมื่อปี 2557 ยังเคยพูดตลกกับคนในครอบครัวว่า พวกเธอเป็นเหมือนผู้ลี้ภัยมลพิษ และเมื่อมาถึงกรุงเทพมหานคร ก็ดูเหมือนว่า ไทยกำลังจะตกไปอยู่ในวงจรเดียวกันกับจีน คือ ไม่ยอมรับปัญหาที่ยืดเยื้อ ใช้วิธีแก้ไขที่ไร้ประสิทธิภาพ และจู่ๆ ก็มาตระหนักได้ว่า มลพิษที่เกิดขึ้นไม่ได้หายไปได้ในพริบตาเหมือนการใช้เวทมนต์ ถ้าไม่มีการกำหนดนโยบายความร่วมมือกัน

190130102232 01 bangkok air pollution 0128 exlarge 169
ภาพ: CNN

ขณะที่สำนักข่าวอัลจาซีราห์ บอกว่า การถกเถียงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กของไทย เริ่มมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ในช่วงเวลาที่ไทยกำลังจะเกิดการเลือกตั้งขึ้นในเดือนมีนาคมนี้

อัลจาซีราห์ ได้ยกตัวอย่างทวิตเตอร์ของนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ที่ทวีตข้อความว่า ไม่เห็นมีการดำเนินมาตรการอย่างจริงจังในเรื่องนี้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินมาตรการมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ปิดโรงเรียนเท่านั้น

รายงานข่าวระบุด้วยว่า พรรคไทยรัษาชาติ พัฒนาแอพพลิเคชันวัดระดับคุณภาพอากาศออกมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ ดำเนินการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ที่ยิ่งตอกย้ำให้ดูเหมือนว่า ท่าทีของรัฐบาลในการตอบสนองต่อเรื่องนี้เป็นไปอย่างเชื่องช้า

Avatar photo