เอส แอนด์ พี โกลบอล เรทติ้งส์ ระบุ เศรษฐกิจสหรัฐเสียหายอย่างน้อย 6,000 ล้านดอลลาร์ จากการที่หน่วยงานราชการสหรัฐบางส่วนต้องปิดให้บริการ หรือที่เรียกกันว่า ชัตดาวน์ นานสุดในประวัติศาสตร์ประเทศ
รายงานระบุว่า ภาวะชัตดาวน์ที่เกิดขึ้นนาน 35 วัน ส่งผลกระทบทั้งด้านผลผลิต และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
“แม้ว่าภาวะชัตดาวน์ครั้งนี้จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่การที่สภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงเพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น มีแนวโน้มที่จะสร้างแรงกดดันต่อความเชื่่อมั่นทางธุรกิจ และความรู้สึกในตลาดการเงิน” เอส แอนด์ พี ระบุ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยินยอมเห็นพ้องเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ม.ค.) ที่จะยุติภาวะชัตดาวน์ ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมปีที่แล้ว โดยยังไม่ได้รับงบประมาณ 5,700 ล้านดอลลาร์ ตามที่เขาเรียกร้องเพื่อนำไปสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ลงนามอนุมัติงบประมาณชั่วคราวนาน 3 สัปดาห์ไปแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์เตือนว่า ถ้าพ้นช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว และเขายังไม่ได้ “ข้อตกลงที่ยุติธรรม” ก็อาจจะเกิดภาวะชัตดาวน์อีกครั้ง
ทรัมป์ทั้งยังส่งสัญญาณว่า อาจตัดสินใจที่จะประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อตัดขั้นตอนของรัฐสภาในการสร้างกำแพงกั้นชายแดน การเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มว่า หากเกิดขึ้นจริงอาจจะมีการฟ้องร้องตามมา
