ความคืบหน้าในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ประเทศรัสเซีย หรือ FIFA World Cup Russia 2018 ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2561 เป็นที่แน่นอนแล้วว่า “ทรูวิชั่นส์” ได้เซ็นสัญญากับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เพื่อซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด โดย บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดการแข่งขันทั้งหมด
สำหรับผู้ให้การสนับสนุนครั้งนี้ได้มีการเจรจาเป็นที่ตกลงร่วมกันแล้วทั้งหมด 9 ราย ที่จะร่วมลงขันการถ่ายทอดสด ประกอบด้วย
1.กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์
2.เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)
3.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK
4.บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด จำกัด (มหาชน)
5.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS
6.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือGULF
โดยทั้ง 6 บริษัทนี้จะร่วมลงขันกันรายละ 200 ล้านบาท
7.บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ลงขัน 100 ล้านบาท
8.บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP
9.คาราบาวแดง
โดย บางจากและคาราบาวแดง จะลงขันรายละ 50 ล้านบาท รวมเม็ดเงินลงขันทั้งหมด 1,400 ล้านบาท
แหล่งข่าว กล่าวว่าในวันที่ 30 เมษายนนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการร่วมกับผู้บริหารที่ร่วมเป็นสปอนเซอร์ทั้งหมด พร้อมแจกแจงรายละเอียดของการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018
ขณะที่บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ AIS ที่เดิมมีรายชื่อเป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ ได้ถอนตัวออกจากการสนับสนุนไปแล้ว
ก่อนหน้านี้พล.อ. ประวิตร ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ความมั่นใจว่าคนไทยจะได้รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพแน่นอน
เช่นเดียวกับนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) เคยระบุว่า คนไทยได้ชมการถ่ายทอดฟุตบอลโลกทั้ง 64 นัดแน่นอน สำหรับทีวีที่จะมีการถ่ายทอด ไม่น่าจะเกิน 4 ช่อง
ทั้งนี้ หากดูจากรายชื่อสปอนเซอร์แล้ว คาดว่าสถานีทีวี ที่จะได้ถ่ายทอดสดแน่ๆตอนนี้ คือ ทรูโฟร์ยู ส่วนช่องอื่นๆ มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นช่อง อมรินทร์ทีวี และ จีเอ็มเอ็ม 25 ในเครือไทยเบฟเวอเรจ รวมทั้งช่อง 5
