ตลาดหุ้นสหรัฐ เปิดซื้อขายในวันนี้ ปรับตัวลดลง จากการที่นักลงทุนพากันประเมินข่าวต่างๆ เกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐ ที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุด ร่วงลง 325.35 จุด หรือ 1.45% มาอยู่ที่ 22,120.02 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 29.32 หรือ 1.21% ที่ 2,387.30 จุด และดัชนีแนสแด็กลดลง 50.62 จุด หรือ 0.80% ที่ 6,282.37 จุด
นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้พยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้กับตลาด ที่ประสบภาวะผันผวนอย่างหนักในปีนี้ โดยเขาเปิดเผยว่า ได้ต่อโทรศัพท์พูดคุยกับบรรดาผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร 6 รายใหญ่สุดในสหรัฐ และได้รับการยืนยันว่า ธนาคารยังมีสภาพคล่องมากพอ
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ และแนสแด็ก มีผลประกอบการที่ย่ำแย่สุดนับแต่เกิดวิกฤติการเงินปี 2551
ปัจจัยลบที่เกาะติดตลาด ยังรวมถึง ความไม่พอใจต่อการขึ้นดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) การลาออกอย่างกระทันหันของ จิม แมททิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ สงครามการค้าจีน-สหรัฐ ที่ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และภาวะชัตดาวน์ในหน่วยงานราชการของประเทศ หลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ล้มเหลวในการเจรจาเรื่องงบประมาณกับสมาชิกรัฐสภาฝ่ายเดโมแครต
นอกจากนี้ สื่อสหรัฐยังรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ขอคำปรึกษาเป็นการส่วนตัวกับผู้คนในคณะรัฐบาล ว่าเขามีอำนาจที่จะปลดนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมานายพาวเวลโดนผู้นำสหรัฐวิจารณ์อย่างหนัก ในเรื่องที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
ในวันนี้ ตลาดสหรัฐจะเปิดซื้อขายเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น และจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ (25 ธ.ค.) เนื่องในวันคริสต์มาส
