รัฐบาลญี่ปุ่นมีมติในวันนี้ (10 ธ.ค.) ห้ามไม่ให้ภาครัฐจัดซื้อผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานจากหัวเว่ย เทคโนโลยี และแซดทีอี ซึ่งเป็นสองบริษัทเทคโนโลยีโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน ตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีหน้าเป็นต้นไป ท่ามกลางความวิตกกังวล เกี่ยวกับการละเมิดความมั่นคงปลอดภัย
หลังจากที่ทางการสหรัฐ และชาติพันธมิตรบางประเทศ เช่น ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ ได้ระงับการสั่งซื้ออุปกรณ์จากบริษัทเหล่านี้มาแล้วในช่วงก่อนหน้านี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในการแถลงข่าว หลังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ จากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ตกลงเห็นชอบในแผนการดังกล่าว โดยระบุว่า “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะไม่จัดซื้ออุปกรณ์ ที่ฝังกลไกการทำงานที่ประสงค์ร้าย เช่น การขโมยข้อมูล และการทำลายข้อมูล”
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า รัฐบาลไม่ได้ระบุชื่อบริษัทที่ถูกแบนอย่างชัดเจน เนื่องจากเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและจีน ซึ่งส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
หัวหน้าโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นเน้นย้ำว่า นโยบายใหม่นี้ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นพิเศษ โดยนายซูกะเผยว่า ทางการจีนได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดังกล่าวของญี่ปุ่น ตั้งแต่ที่สื่อหลายสำนักได้เริ่มรายงานข่าวนี้ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งญี่ปุ่นได้กล่าวกับจีนว่า ญี่ปุ่นจะดำเนินมาตรการที่สอดคล้องกับกฎระเบียบสากล
ทั้งนี้ สถานทูตจีนประจำประเทศญี่ปุ่น ได้แสดงการคัดค้านต่อเรื่องนี้ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์
