ราคาหุ้นโฮปเวลล์ โฮลดิ้งส์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่ของฮ่องกง พุ่งขึ้นถึง 32% ในวันนี้ (6 ธ.ค.) หลังประกาศแผนการมูลค่า 21,260 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์
โฮปเวลล์ ที่มีนายกอร์ดอน วู เป็นผู้ก่อตั้ง และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทอยู่นั้น ระบุว่า บริษัทมีแผนที่จะใช้จ่ายเงินจำนวน 21,260 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือหุ้นละ 38. 8 ดอลลาร์ฮ่องกง ซื้อคืนหุ้นทั้งหมดที่ขายอยู่ในตลาดจำนวน 547.85 ล้านหุ้น เพื่อถอนการจดทะเบียนออกจากตลาด และกลายเป็นบริษัทเอกชน โดยมีซิตี้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับการเคลื่อนไหวนี้
นายวู และครอบครัว ถือหุ้นอยู่ในบริษัท 36.93% โดยโฮปเวลล์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อเดือนสิงหาคม 2515 ซึ่งถ้าแผนการนี้สำเร็จ จะทำให้โฮปเวลล์กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนนานที่สุดที่ถอนการจดทะเบียนจากตลาดหลักทรัพย์
ในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดนั้น นายวูระบุว่า ราคาหุ้นที่บริษัทเสนอซื้อคืนนั้น เป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับบรรดาผู้ถือหุ้นบริษัท โดยราคาที่โฮปเวลล์เสนอซื้อคืนนั้น ยังสูงกว่าราคาปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 ธ.ค.)ถึง 46.7% และสูงกว่าราคาซื้อขายเฉลี่ยในช่วง 60 วันที่ผ่านมาถึง 54.1%
นายวู ยังอธิบายถึงสาเหตุของการตัดสินใจดังกล่าวว่า นอกจากหุ้นของบริษัทจะมีสภาพคล่องต่ำแล้ว บริษัทยังต้องลงทุนอย่างหนักในโครงการพัฒนาโฮปเวลล์ เซ็นเตอร์ 2 ที่ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมากในหลายปีต่อจากนี้
“ถึงแม้บริษัทจะประสบความสำเร็จในการแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในโครงการพัฒนาต่างๆ แต่ตลาดก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก เห็นได้จากการซื้อขายระยะยาว ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ซึ่งเป็นการทำให้ผู้ถือหุ้นตกอยู่ในความเสียเปรียบ”
อย่างไรก็ดี นายไรอัน ชาน รองผู้อำนวยการเอดดิด ซิเคียวริตีส์ แอนด์ ฟิวเจอร์ แสดงความเห็นว่า แม้นักลงทุนบางรายจะสนใจกับแผนการถอนตัวออกจากตลาดหุ้นดังกล่าว แต่อย่าลืมว่า เรื่องนี้ต้องได้รับการเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นด้วย และถ้าผู้ถือหุ้นเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ บอกว่าไม่ แผนการออกจากตลาดก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ในขณะนี้ว่า โฮปเวลล์จะประสบความสำเเร็จด้านการถอนการจดทะเบียนหรือไม่
ที่มา: South China Morning Post
