ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยผู้บริโภคไทยมีทัศนคติที่ดีต่อสังคมไร้เงินสด โดยผลการศึกษา “The Future of Payments – อนาคตแห่งการใช้จ่าย” ซึ่งจัดทำโดย ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล และนีลเส็น เพื่อสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการชำระเงินผ่านมือถือในไทย โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง อายุระหว่าง 18 – 65 ปี จำนวน 400 คน เผยว่า 7 ใน 10 หรือ 71% ของผู้ตอบแบบสอบถาม อยากให้ประเทศไทยเป็นสังคมไร้เงินสด และ 6 ใน 10 หรือ 60% รู้สึกมั่นใจหากต้องใช้ชีวิตในสังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบ
ในยุคที่หน่วยงานต่างๆ กำลังผลักดันประเทศไปสู่สังคมไร้เงินสด ด้วยการสนับสนุนให้ผู้บริโภค ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ผลสำรวจเผยว่า การชำระเงินผ่านมือถือกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยผู้บริโภคกว่าครึ่ง ราว 53% ระบุว่าได้ชำระเงินผ่านมือถือในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยใช้บริการชำระเงินผ่าน 3.1 แพลตฟอร์ม และเกือบ 1 ใน 4 หรือ 22% ใช้จ่ายผ่าน 3 วิธีชำระเงินผ่านมือถือหลักๆ ได้แก่ คิวอาร์โค้ด, การโอนเงินแบบ Peer-to-Peer (P2P), และการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless)
รับสังคมไร้เงินสดพร้อมแนะนำเพื่อน-ครอบครัว
ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นทัศนคติของผู้บริโภคโดยรวมที่เป็นบวก เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมไร้เงินสด โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เห็นความสำคัญของการสนับสนุนให้คนรู้จัก หันมาใช้บริการชำระเงินผ่านมือถือ ในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ผู้บริโภค 71% กล่าวว่า พวกเขามีแนวโน้มจะแนะนำการชำระเงินผ่านมือถือ ให้กับครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงาน ขณะที่ 91% บอกว่า ยินดีที่จะสอนครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงาน เกี่ยวกับการชำระเงินผ่านมือถือ
“ในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด บริการชำระเงินผ่านมือถือ นับเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ โดยเฉพาะคิวอาร์โค้ด ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 75% เคยชำระเงินด้วยวิธีนี้” นายภาคี เจริญชนาพร ผู้อำนวยการ แผนกวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค บริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ (อายุ 18-21 ปี) กลับมีความรู้สึกกระตือรือร้นน้อยกว่าผู้บริโภครุ่นอื่นๆ โดยมีเพีย’ 53% ของคนกลุ่มนี้ ที่ระบุว่ารู้สึกตื่นเต้นที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรวมที่ 70% นอกจากนี้ ผู้บริโภครุ่นใหม่ ยังรู้สึกมั่นใจน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ อยู่ที่ 46% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรวมที่ 61% หากต้องใช้ชีวิตในสังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบ
“สาเหตุที่กลุ่ม Generation Z ให้ความสนใจเรื่องสังคมไร้เงินสด และการชำระเงินผ่านมือถือน้อยกว่าผู้บริโภคกลุ่มอื่นๆ นั้น เรามองว่าเป็นเพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้มีฐานรายได้ และความสามารถในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ รวมถึงมีกำลังซื้อที่ไม่สูงมาก ทำให้การรับรู้เกี่ยวกับบริการด้านการชำระเงินผ่านมือถือในปัจจุบัน จึงไม่สูงนักตามไปด้วย” นายภาคี กล่าวเสริม
การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมไร้เงินสดต้องใช้เวลา
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างวิธีการชำระเงินแบบต่างๆ ผลสำรวจเผยว่า เงินสดยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ผู้บริโภคไทย รองลงมาคือคิวอาร์โค้ด ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถาม 75% ระบุว่าชำระเงินด้วยวิธีนี้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตามด้วยการโอนเงินแบบ P2P ซึ่ง 67% กล่าวว่าเคยชำระเงินด้วยวิธีนี้ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
คาดว่าต้องใช้ระยะเวลา 12 ปีโดยเฉลี่ย ก่อนที่สังคมไทยจะกลายเป็นสังคมไร้เงินสดเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ ผลการศึกษายังเผยทัศนคติของผู้บริโภคเกี่ยวกับความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามน้อยกว่าครึ่ง หรือ 43% รู้สึกมั่นใจว่าประเทศไทย จะกลายเป็นสังคมไร้เงินสดในอนาคตอันใกล้
นายวินเซนต์ หลิง รองผู้จัดการทั่วไป ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เส้นทางสู่สังคมไร้เงินสด ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ชั่วข้ามคืน แต่ในขณะที่เรากำลังก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น การชำระเงินผ่านมือถือ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่เงินสด
โดยเฉพาะด้านบริการธุรกรรมที่สะดวกรวดเร็ว เชื่อว่าการผลักดันจากภาคส่วนและองค์กรธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดได้ในระยะเวลาน้อยกว่า 12 ปี ยูเนี่ยนเพย์เชื่อว่า ความพยายามในการสนับสนุนการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ ช่วยผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสดอย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น เนื่องจากการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด เป็นวิธีที่ทั้งผู้บริโภคและร้านค้าสามารถใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องลงทุนสูงในด้านอุปกรณ์หรือโครงสร้างพื้นฐาน
ผู้บริโภคไทยหันมานิยมใช้บริการชำระเงินผ่านมือถือเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การสนับสนุนจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล สถาบันการเงิน ระบบการชำระเงิน และร้านค้า ต่างมีส่วนช่วยสร้างการรับรู้ และผลักดันให้มีผู้ใช้บริการชำระเงินผ่านมือถือเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า หนึ่งในปัจจัยที่เป็นอุปสรรค ต่อการหันมาใช้คิวอาร์โค้ดก็คือ เครือข่ายร้านค้าที่รองรับมีจำกัด และบริการที่ค่อนข้างกระจัดกระจาย
สำหรับคิวอาร์โค้ดของยูเนี่ยนเพย์ ได้รับมาตรฐานระดับโลกจาก EMVCo. สามารถใช้งานได้กับเครือข่ายร้านค้า 10 ล้านแห่งใน 24 ตลาดทั่วโลก ทำให้ลูกค้าสะดวกสบาย จากการใช้จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดได้บนแอพพลิเคชันเดียว