Finance

เปิดโผหุ้นพีอีทะลุ 100 เท่า

ในไตรมาสแรกของปี2561 ดัชนีหุ้นไทยไต่ระดับนิวไฮสูงสุดประวัติการณ์ จึงไม่น่าแปลกใจที่ราคาหุ้นไทยหลายๆบริษัทก็ทุบสถิติสูงสุดเช่นกัน ซึ่งการปรับตัวขึ้นจะสอดคล้องกับพื้นฐานหรือไม่นั้น ในเบื้องต้นคงต้องเลือกพิจารณากันที่ค่าเฉลี่ยของ P/E หรือ ราคาหุ้นเทียบกับอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น

ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพบว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ตลาดหุ้นไทยมีค่าพีอีเรโชเฉลี่ยอยู่ที่ 18.29 เท่า ขณะที่มีบริษัทจดทะเบียนที่มีพีอีเรโชสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดราว 204 บริษัท โดยมีหุ้นค่าพีอีเรโชสูงสุดถึง 808 เท่า ขณะที่พีอีเรโชเกิน 100 เท่า ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็ก มีจำนวน 18 บริษัท ประกอบด้วย

  • บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จำกัด (มหาชน) หรือ BROCK ค่าพีอีเรโชอยู่ที่ 808 เท่า
  • บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX 491 เท่า
  • บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน)หรือ Q-CON 446 เท่า
  • บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC 426 เท่า
  • บริษัท ไทยโทรเรเท็กซ์ไทล์มิลลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTM 277 เท่า
  • บริษัท ทีมพรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TEAM 251 เท่า
  • บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO 222 เท่า
  • บริษัท บริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) หรือ GENCO 205 เท่า
  • บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI 186 เท่า
  • บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ CKP 180.01เท่า
  • บริษัท เอเซียไฟเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AFC 163.39 เท่า
  • บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGPRO 160.78 เท่า
  • บริษัท หลักทรัพย์ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO 153.63 เท่า
  • บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J 136.44 เท่า
  • บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK 117.46 เท่า
  • บริษัท ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล จำกัด (มหาชน) หรือ LRH 110.59 เท่า
  • บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY 103.59 เท่า
  • บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE 102.01 เท่า

Pe100 01

นางภรณี ทองเย็น อุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ให้ความเห็นว่า การที่หุ้นมีพีอีเรโชที่สูงแสดงให้เห็นว่าผู้ลงทุนมีความคาดหวังว่าบริษัทจะมีความสามารถการทำกำไรอนาคตในทิศทางที่ดีขึ้น หากจะพิจารณาว่าจะตัดสินใจลงทุนหุ้นหรือไม่นั้น ต้องดูเป็นรายบริษัท สิ่งสำคัญ ควรดูว่าอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีอนาคตหรือไม่ หรือ หากบริษัทนั้นมีผลขาดทุนและแนวโน้มยังขาดทุนต่อเนื่องอีกหลายปี ก็ไม่ควรเข้าไปลงทุน หรือหลีกเลี่ยงลงทุน

“การที่จะเข้าลงทุนหุ้นที่มีพีอีเรโชสูงแสดงว่านักลงทุนมีความคาดหวังสูงกับบริษัทนั้นๆ เพราะมองว่าอนาคตผลกำไรน่าจะเติบโตได้ดี แต่ถ้าเป็นหุ้นพีอีเรโชสูง และยังแบกภาระขาดทุนอยู่ก็ไม่น่าสนใจที่จะเข้าไปลงทุน”

สอดคล้องกับ “ดุลเดช บิค” นักวิเคราะห์อาวุโส บล.โนมูระพัฒนสิน ประเมินว่า หุ้นพีอีเรโชสูงๆมักจะเป็นหุ้นขนาดกลางและเล็ก เพราะผู้ลงทุนมีความคาดหวังสูง ซึ่งหุ้นพีอีเรโชจะต่ำหรือสูง ควรเข้าลงทุนหรือไม่ ต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบการตัดสินใจ เช่น ทิศทางภาพรวมเศรษฐกิจ ภาวะอุตสาหกรรมของบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนน่าสนใจหรือไม่ รวมถึงควรลงลึกไปดูว่าบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนมีศักยภาพของความสามารถทำกำไรดีแค่ไหน และควรต้องประเมินว่าอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้ามีโอกาสเติบโตหรือไม่

“การลงทุนในหุ้นที่มีความคาดหวังสูง ก็ต้องมีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ดังนั้นผู้ลงทุนควรพิจารณาให้รอบคอบหากสนใจลงทุนในหุ้นพีอีเรโชสูงๆ”

จากความเห็นของโบรกเกอร์ก็พอจะมีข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจเข้าลงทุนแบบเบื้องต้นได้บ้าง แต่ปัจจัยอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้าม และน่าจะเป็นสัญญาณที่ใช้ตัดสินใจได้บ้างว่าควรซื้อหุ้นหรือขายหุ้น ก็คือ การซื้อขายหุ้นของผู้บริหารบริษัทนั้นๆ

ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในส่วนของการรายงานการถือครองหลักทรัพย์ของผู้บริหาร จะพบว่า หุ้นที่มีพีอีเรโชเกิน 100 เท่าก็มีกลุ่มผู้บริหารเริ่มทยอยขายหุ้นออกมา น่าจะสะท้อนอนาคตได้พอควร เช่น

หุ้นบริษัทโมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO มีค่าพีอีเรโชเฉลี่ยสูงถึง 222 เท่า และตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ผู้บริหารก็มีการทยอยขายหุ้นทำกำไรออกมา โดยส่วนมากจะตัดขายที่ราคาเกิน 4 บาทต่อหุ้น ซึ่งบุคคลทำรายการ ประกอบด้วย คมศักดิ์ วัฒนาศรีโรจน์ กรรมการ รายงานขายหุ้น 2 ครั้ง จำนวน 1.13 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.37-4.43 บาท มูลค่ารวม 4.9 ล้านบาท

ซัง โด ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รายงานขายหุ้น 2 ครั้ง ในราคาหุ้นละ 4.52-4.54 บาท จำนวน 1.9 ล้านหุ้นมูลค่ารวม 9 ล้านบาท นวมินทร์ ประสพเนตร กรรมการ รายงานขายหุ้น 10 ล้านหุ้น ราคา 4.05 บาท มูลค่ารวม 40.50 ล้านบาท ปวีณา พูนพัฒนสุข ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน ขายหุ้น 0.05 ล้านหุ้น ราคา 4.4 บาทมูลค่ารวม 0.22 ล้านบาท และพิชญ์ โพธารามิก ประธานกรรมการ รายงานขายหุ้น 100 ล้านหุ้น ราคา 4.05บาท มูลค่ารวม 405 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นโมโนในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ราคาหุ้นปรับลดลง 7.28% โดยราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 4.92 บาท ต่ำสุดที่ 3.80 บาทและราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 4.47 บาท

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลงวดปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท โดยจะมีการพิจารณาจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 เมษายนนี้ และวันขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 และได้รับเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2561

นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ราคาหุ้นโมโนที่ซื้อขายในปัจจุบันเป็นราคาที่สูงเกินมูลค่าพื้นฐานแล้ว และคาดว่าราคาหุ้นหลังจากนี้ไปน่าจะทรงตัวหรือแกว่งตัวในทิศทางขาลงมากกว่าขึ้น เพราะไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อราคาหุ้น แม้ว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2561 น่าจะออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ราคาหุ้นสะท้อนไปหมดแล้ว

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight