2 แกนนำเขมรแดง ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ในข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา ช่วงเรืองอำนาจ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นวน เจีย วัย 92 ปี ผู้นำอันดับ 2 ของเขมรแดง รองจากพล พต และเขียว สัมพัน วัย 87 ปี อดีตประมุขแห่งรัฐของกัมพูชา ในสมัยเขมรแดง ถูกพิจารณาคดีจากศาลพิเศษคดีอาชญากรสงคราม กรุงพนมเปญ ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวมุสลิมจาม และชนเชื้อสายเวียดนาม ในกัมพูชา
การตัดสินว่าทั้งคู่มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหานั้น นับเป็นครั้งแรกที่เกิดการยอมรับอย่างเป็นทางการว่า สิ่งที่เขมรแดงทำไปนั้น เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายสากล
อดีตผู้นำเขมรแดงทั้ง 2 ราย ที่ปัจจุบันรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในคดีก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติอยู่แล้ว โดยตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
ในการตัดสินครั้งนี้ ผู้พิพากษานิล นอน ได้อ่านคำพิพากษาต่อหน้าผู้คนที่เข้ามารับฟังเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเหยื่อของเขมรแดง ซึ่งข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่บุคคลทั้ง 2 ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง รวมถึง การก่อาชญากรรม บังคับแต่งงาน ข่มขืน และการทำลายล้างทางศาสนา
แต่ช่วงที่ได้รับความสนใจมากสุด คือ การอ่านคำตัดสินที่ระบุว่า นวน เจีย มีความผิดจริงในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในความพยายามที่จะกำจัดชาวจามมุสลิม และชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนาม และเขียว สัมพัน มีความผิดในข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวเวียดนาม
ทั้งนี้ ในช่วงที่เขมรแดงเรืองอำนาจ และขึ้นปกครองกัมพูชาระหว่างปี 2518- 2522 นั้น เชื่อกันว่า มีผู้คนมากถึง 2 ล้านคน ที่ต้องเสียชีวิตไปในระยะเวลาอันสั้นนี้ โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะขาดอาหาร และทำงานหนักจนเกินไป หรือโดนประหารชีวิต เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นศัตรูของประเทศ ภายใต้ความพยายามของพล พต ที่จะเปลี่ยนกัมพูชาให้กลายเป็นสังคมเกษตรกรรมในอุดมคติ
