“วีจีไอ”โชว์ไตรมาส 2 โกยรายได้ 1,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5 % แรงหนุนสื่อโฆษณานอกบ้าน-จอดิจิทัลโต ธุรกิจชำระเงิน “แรบบิท ไลน์เพย์” ผู้ใช้พุ่ง 55.2% อานิสงส์ “เลือกตั้ง” ดันอุตฯโฆษณาปีหน้าโต ขยับเป้ารายได้เป็น 5,000 ล้าน
นายเนลสัน เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าช่วง 10 ที่ผ่านมาสื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมการสื่อสารของผู้คนในยุคปัจจุบันมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที
โดยวีจีไอ ได้เริ่มปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจจากผู้ให้บริการสื่อนอกบ้าน (OOH) เพียงอย่างเดียวสู่การเป็นผู้ให้บริการ Offline-to-Online (O2O) Solutions ผ่านแพลตฟอร์มสื่อโฆษณา, การบริการชำระเงิน และโลจิสติกส์ โดยนำข้อมูลจากแพลตฟอร์มต่างๆ มาช่วยส่งเสริมการขาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบ 360 องศา
จากกลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้สำหรับไตรมาส 2 ปี 61/62 (ก.ค.-ก.ย.61) ทำรายได้รวม 1,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5 % กำไรสุทธิ 260 ล้านบาท เติบโต 28.8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มธุรกิจมีแนวโน้มเติบโต
ธุรกิจสื่อโฆษณา มีการขยายเครือข่ายไปยังต่างประเทศและขยายขีดความสามารถด้านดิจิทัลผ่านการร่วมมือกับพันธมิตร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO โดยไตรมาสนี้ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านมีรายได้ 909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%
สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน มีรายได้ 535 ล้านบาท ลดลง 7.2% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุมาจากการสิ้นสุดของสัญญาแคมเปญ O2O โซลูชั่นส์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยมีรายได้อยู่ที่ 57 ล้านบาท ลดลง 30 ล้านบาท จาก 87 ล้านบาทในช่วงเดียกันของปีก่อนหน้า คาดว่าการลดลงดังกล่าวจะเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้นและเชื่อว่าลูกค้าจะกลับมาใช้สื่อเป็นปกติในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีนี้
สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่นๆ มีรายได้อยู่ที่ 109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.7% ปัจจัยหลักจากอัตราการใช้สื่อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นราคาของสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน นอกจากนี้ยังได้รับสัญญาการบริหารสื่อในอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง ปัจจุบันมีจำนวนอาคารภายใต้การบริหาร 177 อาคาร และมีจอดิจิทัล 1,374 จอ
สื่อโฆษณากลางแจ้ง มีรายได้ 266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากสื่อโฆษณาดิจิทัลบิลบอร์ด จำนวน 35 จอ
ธุรกิจบริการชำระเงิน (ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล) มีผู้ใช้บริการเติบโต เริ่มจาก Rabbit LinePay ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 55.2% จำนวน 4.5 ล้านราย จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานใหม่บนแอพ LINE ให้สะดวกและง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น และเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 บริษัท แรบบิท-ไลน์เพย์ จำกัด (RLP) และ BTS ได้ทดลองให้บริการ “Bind, Tap & Ride” บน 20 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่วยสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อแก่ผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสกว่า 8 แสนคนต่อวัน
โดยผู้ถือบัตรแรบบิทสามารถผูกบัตรดังกล่าวกับ Rabbit LinePay และเชื่อมช่องทางการจ่ายเงินทั้งสองรูปแบบให้กลายเป็นกระเป๋าสตางค์ใบเดียวกันได้ (single e-wallet) บริการนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญของกลุ่มบริษัทในการผลักดันให้สังคมเข้าสู่สังคมไร้เงินสด
บัตรแรทบิทที่เป็นช่องทางการชำระเงินแบบออฟไลน์ มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็น 9.8 ล้านใบ เข้าใกล้เป้าหมายสำหรับที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 10.5 ล้านใบ และบริการ Rabbit AEON ธุรกิจให้กู้ยืมเงินขนาดเล็ก (micro-loan) มียอดการปล่อยกู้ทั้งสิ้นจำนวน 1,529 ล้านบาทในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา การเติบโตของธุรกิจบริการด้านดิจิทัลในไตรมาส 2 ปี 61/62 มีรายได้ 299 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 243.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ธุรกิจขนส่ง ใช้กลยุทธ์ synergy สื่อโฆษณาและธุรกิจขนส่งสินค้า ช่วงไตรมาสที่ผ่านมา โดยวีจีไอ ร่วมมือกับ Kerry Express ทดลองให้บริการส่งสินค้าทดลอง โดยแนบไปกับกล่องส่งสินค้า (Smart sampling) ผ่านเครือข่ายโลจิสติกส์ของ Kerry Express ซึ่งภายใน 1 เดือนหลังจากการให้บริการสามารถส่ง smart sampling จากสินค้ากลุ่ม FMCG ได้ถึง 7 หมื่นชิ้น โดยมีอัตรา Conversion 3-5% เทียบกับระดับเฉลี่ยของตลาด 0.5%
“แนวโน้วตลาดสื่อโฆษณาจากนี้น่าจะมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยรับอานิสงส์จากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปี 2562 ที่คาดว่าจะส่งผลในเชิงบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีการใช้จ่ายงบประมาณโฆษณา”
นอกจากนี้การเติบโตตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 30% ต่อปี จากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่มีความนิยมใช้สมาร์ทโฟน และแทบเล็ตมากขึ้น รวมไปถึงผลของการควบรวมงบการเงินของกลุ่มทรานส์ แอด ทำให้ วีจีไอ ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปี 2561/62 เป็น 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 4,400 – 4,600 ล้านบาท และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 20-25%
