โควิดวันนี้ 21 เม.ย. นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 143,542,550 คน รักษาตัวหายแล้ว 121,896,157 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,057,541 ราย
สหรัฐ มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (32,536,470) รองลงมาคือ อินเดีย (15,609,004), บราซิล (14,050,885), ฝรั่งเศส (5,339,920), รัสเซีย (4,718,854), สหราชอาณาจักร (4,393,307), ตุรกี (4,384,624) อิตาลี (3,891,063), สเปน (3,435,840) และเยอรมนี (3,180,810)
ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านราย ได้แก่ อาร์เจนตินา โปแลนด์ โคลอมเบีย เม็กซิโก และอิหร่าน
ส่วนประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านราย ได้แก่ ยูเครน เปรู อินโดนีเซีย สาธารณรัฐเช็ก แอฟริกาใต้ เนเธอร์แลนด์ แคนาดา ชิลี และโรมาเนีย
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (582,456) ตามมาด้วยบราซิล (378,530), เม็กซิโก (212,466), อินเดีย (182,570), สหราชอาณาจักร (127,307), อิตาลี (117,633) และรัสเซีย (106,307)
องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ยืนยันว่า การใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาโดย “แจนเซน” บริษัทลูกของ “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” (J&J) อาจทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันขึ้น
แถลงการณ์ ระบุว่า คณะกรรมการความปลอดภัยของ EMA ได้ข้อสรุปว่า ควรมีการแจ้งเตือน เกี่ยวกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดที่ผิดปกติ พร้อมกับเกล็ดเลือดต่ำในข้อมูลผลิตภัณฑ์วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแจนเซน โดยเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข และผู้ที่จะได้รับวัคซีนดังกล่าว ควรตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดที่ผิดปกติ รวมทั้ง การมีเกล็ดเลือดต่ำภายในเวลา 3 สัปดาห์ หลังการฉีดวัคซีน
อย่างไรก็ดี EMA ระบุว่า ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ J&J ยังคงมีมากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ EMA ก็เคยออกมาเตือนเช่นกันว่า มีความเชื่อมโยงกันที่เป็นไปได้ ที่วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่แอสตร้าเซนเนก้า ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พัฒนา อาจทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ใหญ่ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว แต่ประโยชน์จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้ายังคงมีมากกว่าความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับสถานการณ์ในอาเซียนนั้น กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 5,549 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,614,849 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 210 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 43,777 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนทั้งในยอดสะสมผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิต
ขณะที่ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมียอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากสุดเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคนี้ รายงาน โควิดวันนี้ 21 เม.ย. พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 7,379 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ที่ 953,106 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 93 ราย มาอยู่ที่ 16,141 ราย
ส่วน กระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาของเมียนมา แถลงว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 17 ราย ส่งผลให้ขณะนี้เมียนมามีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 142,661 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดปุ๊ปเจอปั๊ป! ‘นิวซีแลนด์’ เจอคนงานสนามบินติดโควิด เพิ่งเปิด ‘ทราเวล บับเบิล’ ออสซี่
- เรื่องอย่าหาทำ ช่วงโควิด ‘หมอธีระวัฒน์’ ย้ำช่วยตัวเองได้ เท่ากับช่วยคนไทยทั้งประเทศ
- ‘อินเดีย’ เตรียมฉีดวัคซีนโควิดเฟส 3 ให้ ‘ผู้ใหญ่ทุกคน’ แข่งไวรัสระบาดหนัก
