COVID-19

เส้นทางเลี่ยงม็อบ ตำรวจเตรียมกำลัง14 กองร้อย เตรียมรับมือ

เส้นทางเลี่ยงม็อบ กลุ่มเยาวชนปลดแอก นัดขุมนุมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนเคลื่อนไปบ้านพัก บิ๊กตู่ กรมทหาราบที่ 1 ตำรวจเตรียม 14 กองร้อยรับมือ

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) เปิดเผยว่า จากกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศนัดรวมตัววันี้ เวลา 15.00 น. บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังกรมทหาราบที่ 1 มหาดเล็กรักษา พระองค์ฯ จึงขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าเสร็จสิ้นการชุมนุม และแนะนำ เส้นทางเลี่ยงม็อบ ดังนี้

22 2

1. เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง

  • ถ.พญาไท บริเวณแยกพญาไท – อนุสาวรีย์ชัยฯ
  • ถ.พหลโยธิน บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ – แยกสะพานควาย
  • ถ.ดินแดง บริเวณแยกดินแดง – อนุสาวรีย์ชัยฯ
  • ถ.ราชวิถี บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ – แยกตึกชัย
  • ถ.วิภาวดีฯ (ช่องคู่ขนาน) บริเวณหน้า รพ.ทหารผ่านศึก – สโมสร ทบ.
  • ซ.พหลโยธิน 2 เฉพาะสะพานข้ามทางต่างระดับ

ม็อบ

2. เส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร

ถ.ศรีอยุธยา, ถ.ประดิพัทธ์, ถ.เพชรบุรีล, ถ.กำแพงเพชร, ถ.จตุรทิศ, ถ.กำแพงเพชร 2, ถ.พระราม 6, ทางยกระดับอุตราภิมุข, ถ.วิภาวดีฯ (ช่องทางด่วน), ทางพิเศษศรีรัช, ถ.สุทธิสารวินิจฉัย, ทางพิเศษเฉลิมมหานคร

ขณะที่ บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจร คอยอำนวยความสะดวก ด้านการจราจร ให้แก่พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในภาพรวม เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หาก ต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า การที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกและแนวร่วม ในนาม “REDEM” จะเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 15.00 น.ไปที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่ง กทม.ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การชุมนุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค เข้าความความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค

EvSIHMnVgAMqVmS

ทั้งนี้ ตำรวจจะใช้กำลังหลักจาก กองร้อยน้ำหวาน หรือชุดควบคุมฝูงชนหญิง 1 กองร้อย ควบคู่กับกำลังควบคุมฝูงชนจากตำรวจนครบาล 1 และ 2 รวม 4 กองร้อย หากสถานการณ์ย่ำแย่ จะเพิ่มกำลังสำรองจาก บช.น. 9 กองร้อย

ตำรวจจะอนุญาตให้ผู้ชุมนุมเข้าใกล้สิ่งกีดขวางได้มากที่สุด ที่แนวกั้นถนนวิภาวดี ช่องทางคู่ขนานหน้า รพ.ทหารผ่านศึก โดยไม่อนุญาตให้ผู้ชุมนุมปิดช่องทางด่วน หรือช่องทางหลักเด็ดขาด เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดยาวที่ประชาชนจะใช้เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า เรื่องการเตรียมสิ่งกีดขวางนั้น ตำรวจได้พิจารณาตามความเหมาะสม จากการข่าวและพฤติกรรมของผู้ชุมนุม เพื่อลดการเผชิญหน้า ระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ เพราะการชุมนุมที่ผ่านมา มีการใช้อาวุธปืน วัตถุระเบิด พลุเพลิงที่อาจก่อเพลิงไหม้ เช่น การชุมนุมที่รัฐสภา เกียกกาย ที่แยกรัชโยธิน ที่หน้าสถานทูตเมียนมา และที่ศาลฏีกา

ดังนั้น ตำรวจมีความห่วงใย จึงจำเป็นต้องตั้งเครื่องกีดขวาง และแบริเออร์ในบางสถานที่ เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด โดยได้นำสิ่งกีดขวางไปวางหน้ากรมทหารราบที่ 1 เพียง 1 ช่องทาง และให้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านจราจร

แม้การชุมนุมในวันนี้ ประกาศว่า จะไม่มีแกนนำ แต่ผู้ที่ชักชวนให้คนออกมาร่วมการชุมนุม, ผู้ปราศรัย, ผู้บริหารจัดการชุมนุม และผู้ร่วมชุมนุม ถือเป็นผู้กระทำผิดทั้งหมด ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยง ไม่ไปร่วมชุมนุม ไม่เช่นนั้นตำรวจจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo