Economics

โควิดทำ ‘ตรุษจีน’ ปีนี้เงียบเหงา คาดคนกรุงใช้จ่ายลดลง 10.4%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มอง “โควิด” ระลอกใหม่กดดันการใช้จ่ายช่วงตรุษจีนของคนกรุง คาดอยู่ที่ประมาณ 11,700 ล้านบาท หดตัวถึง 10.4%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนของคนกรุงเทพฯ ในปี 2564 แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการต่าง ๆ ออกมากระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ คนละครึ่ง เพื่อช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคได้บางส่วน พร้อมกับการประกาศให้เป็นวันหยุดพิเศษ 1 วัน เพื่อกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวและเกิดการใช้จ่ายขึ้น รวมถึงการผ่อนปรนมาตรการที่เกี่ยวกับโควิด-19 ระลอกใหม่ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา แต่ด้วยกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้คาดว่าจะยังคงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เม็ดเงินใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ของคนกรุงเทพฯ ในปี 2564 น่าจะหดตัวประมาณ 10.4% (กรอบประมาณการหดตัว 8-12%) เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก โควิดมากนัก หรือคิดเป็นการใช้จ่ายกว่า 11,700 ล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด รวมถึงมาตรการในการควบคุมการระบาดของภาครัฐ ซึ่งหากพื้นที่กรุงเทพฯ กลับมามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีนภายหลังจากการผ่อนปรนมาตรการ ก็อาจจะทำให้การใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ หดตัวเพิ่มขึ้นกว่าที่คาด

ทั้งนี้ การระบาดของโควิด-19 เร่งให้คนกรุงเทพฯ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยการสั่งซื้อเครื่องเซ่นไหว้จัดชุดสำเร็จรูปผ่านช่องทางออนไลน์ หรือโทรสั่งให้ร้านค้าส่งเดลิเวอรี่กันมากขึ้นกว่าปีก่อน ๆ ซึ่งผู้ประกอบการ ควรมีการปรับตัวและเพิ่มบริการให้สอดรับกับพฤติกรรมดังกล่าว

ที่สำคัญหากผู้ประกอบการ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในเรื่องของคุณภาพสินค้า โดยเฉพาะความสดใหม่ของเนื้อสัตว์และผลไม้ รวมถึงความคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับการเดินทางไปเลือกซื้อเอง ก็น่าจะจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวมากขึ้น

เทศกาลตรุษจีนปี 2564 ถือเป็นปีที่ท้าทายพอสมควรสำหรับผู้ประกอบการ เพราะต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือผู้บริโภค เช่น มาตรการคนละครึ่ง รวมถึงประกาศให้วันตรุษจีนปีนี้ เป็นวันหยุดพิเศษ 1 วัน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย

แต่เนื่องจากผู้บริโภคยังคงกังวลกับรายได้ในอนาคต และยังมีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ดังนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องวางแผนรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ เพื่อให้เกิดรายได้เข้ามาหมุนเวียนหรือประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอด ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้

คนกรุงเทพฯ คาดว่าจะใช้จ่ายลดลงในทุกกิจกรรม โดยเฉพาะการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ทำบุญ และการแจกเงินแต๊ะเอีย แม้ว่าภาครัฐจะมีการผ่อนปรนมาตรการที่เกี่ยวกับโควิด-19 ระลอกใหม่ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบยาวนานและยังไม่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า

ทำให้คาดว่า บรรยากาศของการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 นี้ อาจจะไม่คึกคัก และผู้บริโภคน่าจะมีการใช้จ่ายที่ค่อนข้างประหยัดกว่าปีก่อน ๆ ซึ่งจากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า คนกรุงเทพฯ วางแผนที่จะใช้จ่ายลดลงในทุกกิจกรรม และบางกิจกรรม เช่น ท่องเที่ยว/ทำบุญ หรือให้เงินแต๊ะเอียก็ได้มีการงด หรือยกเลิกการทำกิจกรรมในปีนี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดว่า เม็ดเงินการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 11,700 ล้านบาท หดตัวถึง 10.4% (กรอบประมาณการหดตัว 8-12%) เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากนักหากเทียบกับตรุษจีนปีนี้ โดยเม็ดเงินดังกล่าวแบ่งเป็น การใช้จ่ายเครื่องเซ่นไหว้ 5,600 ล้านบาท (หดตัว 5.1%) การใช้จ่ายท่องเที่ยว/ทำบุญ/ทานข้าวนอกบ้าน 2,900 ล้านบาท (หดตัว 20.8%) และการแจกเงินแต๊ะเอีย 3,200 ล้านบาท (หดตัว 8.1%)

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด รวมถึงมาตรการในการควบคุมของภาครัฐอีกครั้ง ซึ่งหากพื้นที่กรุงเทพฯ กลับมามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนภายหลังจากการผ่อนปรนมาตรการฯ ก็อาจจะทำให้การใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ หดตัวเพิ่มขึ้นกว่าที่คาด

อย่างไรก็ตาม โควิด-19 เร่งการปรับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของคนกรุงเทพฯ โดยหันมาสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์หรือโทรสั่งซื้อให้ผู้ประกอบการทำการจัดส่งแทนการออกไปเลือกซื้อสินค้าเองมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคบางส่วนยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย และพยายามเว้นระยะห่าง หรือหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้านหากไม่จำเป็น (Social distancing)

ประกอบกับการปรับกลยุทธ์การตลาดของผู้ประกอบการหลายรายที่ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ทั้งผู้ประกอบการค้าปลีก Modern trade รวมถึงผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหรือรายย่อย ที่มีการขยายช่องทางการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หรือโทรสั่งและมีบริการจัดส่งถึงที่พักกันมากขึ้น ส่งผลให้ปีนี้รูปแบบของการจัดเตรียมของเซ่นไหว้มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น กล่าวคือ คนกรุงเทพฯ กว่า 34% หันมาซื้อเครื่องเซ่นไหว้ตรุษจีนผ่านช่องทางดังกล่าวกันมากขึ้นกว่าปีก่อนที่มีเพียง 11% เท่านั้น

นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบว่า คนกรุงเทพฯ กว่า 43% สนใจซื้อเครื่องเซ่นไหว้ที่จัดสำเร็จรูปไว้แล้วเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้าที่มีเพียง 22% ของคนที่ตอบแบบสอบถาม โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบครันและสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะการตอบโจทย์พฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการในปัจจุบัน

ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดทางด้านเวลา ความรู้ความเข้าใจในการทำพิธี รวมถึงข้อจำกัดทางด้านที่พักอาศัยที่อาจจะไม่เอื้อต่อการไหว้ตรุษจีน ดังนั้น หากผู้ประกอบการมีการปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคได้เร็ว ก็น่าจะช่วยให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องยังคงมีรายได้เข้ามาหมุนเวียน หรือประคับประคองธุรกิจภายใต้แรงกดดันต่าง ๆ ไว้ได้

โดยสรุป ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เทศกาลตรุษจีนของคนกรุงเทพฯ ในปีนี้น่าจะไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยผู้บริโภคยังคงเผชิญปัจจัยท้าทายทางด้านโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ส่งผลต่อกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญในระยะสั้น และต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจยังคงตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคได้ โดยเฉพาะการปรับตัวเข้าหาช่องทางออนไลน์ ที่ในปีนี้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพและราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการซื้อหน้าร้าน

อย่างไรก็ดี โจทย์ในระยะยาวก็น่าจะเป็นเรื่องของมุมมองต่อเทศกาลตรุษจีนที่เปลี่ยนแปลงไปของคนรุ่นใหม่ จึงนำมาซึ่งความท้าทายของผู้ประกอบการ ที่ทำอย่างไรจะยังจูงใจหรือดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้เข้ามามีส่วนร่วมและผูกพันกับเทศกาล เพื่อให้เกิดการสืบทอดและเกิดการใช้จ่ายสะพัดไปยังธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลตรุษจีนให้ยังคงมีอยู่ในระยะข้างหน้า

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo