Business

เริ่มแล้ว! 29 ธันวาคม 63 – 4 มกราคม 64 ขอความร่วมมือ รถบรรทุก หยุดวิ่ง

ขอความร่วมมือ รถบรรทุก หยุดวิ่ง ช่วงปีใหม่ 29 ธันวาคม 2563 – 4 มกราคม 2564 กรมการขนส่งทางบก เว้นให้เฉพาะสินค้าที่มีความจำเป็นเร่งด่วน

นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือ รถบรรทุก หยุดวิ่ง ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง เทศกาลปีใหม่นี้ โดยเป็นหนึ่งในมาตรการ เตรียมความพร้อม รองรับการเดินทาง ให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564

ขอความร่วมมือ รถบรรทุก

 

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้มีการประชุมซักซ้อมความเข้าใจกับ สมาคมขนส่งสินค้า สมาคมรถบรรทุก และผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทาง และรถบรรทุกส่วนบุคคล เพื่อขอให้งดการว่าจ้างขนส่งสินค้า และงดการใช้รถบรรทุกในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 – 4 มกราคม 2564

สำหรับผู้ประกอบการ ที่เข้าร่วมประชุม และ พร้อมให้ความร่วมมือ ประกอบด้วย

  • สภาหอการค้าไทย
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
  • สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
  • สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย
  • สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย
  • สมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย
  • สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย
  • สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
  • สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
  • สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน
  • สมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก
  • สมาคมขนส่งสินค้า เพื่อการนำเข้าและส่งออก
  • สมาคมผู้ประกอบธุรกิจวัตถุอันตราย

 

รถบรรทุกอย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ต่อการอุปโภคบริโภค ของประชาชน ให้สามารถดำเนินการขนส่งได้ โดยหลีกเลี่ยงเส้นทาง และช่วงเวลา ที่ประชาชนใช้รถ ใช้ถนน เป็นจำนวนมาก

พร้อมกันนี้ กรมการขนส่งทางบก ขอเน้นย้ำให้ ผู้ประกอบการขนส่ง และผู้ขับรถ ปฏิบัติตามข้อกำหนด ว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่ง และปฏิบัติตามกฎจราจร อย่างเคร่งครัด เช่น การขับรถโดยใช้ความเร็ว ที่เหมาะสมกับสภาพถนน ห้ามขับรถ โดยประมาทหวาดเสียว หลีกเลี่ยงเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหัน หรือตัดหน้ากระชั้นชิด

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถ ในทางเดินรถ หรือไหล่ทาง ป้องกัน และลดความเสี่ยง การเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จากกรณีรถคันอื่นชนท้าย ก่อนการเดินทาง ต้องตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบ ความพร้อมของรถ และผู้ขับรถอย่างเข้มงวด เช่น สภาพยางรถ ระบบเบรก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ที่เกิดจากความบกพร่อง ของตัวรถ

ในกรณี รถบรรทุก  ตู้คอนเทนเนอร์ ให้ตรวจสอบ และใช้อุปกรณ์ยึดตรึงตู้คอนเทนเนอร์ (Twist Lock) ตรวจสอบการทำงานของระบบ GPS Tracking ให้สามารถส่งข้อมูลการเดินรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับกรณีที่เครื่องยนต์ หรือเครื่องอุปกรณ์ของรถขัดข้อง ให้เร่งดำเนินการซ่อมแซม เพื่อนำรถนั้น ให้พ้นทางเดินรถโดยเร็วที่สุด โดยให้แสดงเครื่องหมาย หรือสัญญาณเตือน ให้รถคันอื่นสังเกตเห็นได้ จากระยะปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

ด้านผู้ขับรถ ต้องพักผ่อนเพียงพอ ปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจของผู้ขับรถ ต้องเป็นศูนย์ (0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) ไม่เสพสารเสพติดให้โทษ หรือสารที่ออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาท ขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงาน ตามที่กฎหมายกำหนด มีใบอนุญาตขับรถถูกต้อง

ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการขนส่ง หรือผู้ขับรถ ละเลยการปฏิบัติตามกฎหมาย จนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ กรมการขนส่งทางบก จะพิจารณาดำเนินการลงโทษ ขั้นสูงสุด

ด้าน คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.)ได้วาง 5 มาตรการเฝ้าระวัง อุบัติเหตุปีใหม่ ดังนี้

1. ด้านการบริหารจัดการ อาทิ จัดตั้งศูนย์ป้องกัน และ ลดอุบัติเหตุ ทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ทั้งส่วนกลาง ระดับจังหวัด อำเภอ กทม. และอปท. การลดปัจจัยเสี่ยง โดยใช้กลไกท้องที่ควบคุมและดำเนินการมาตรการเชิงรุก “เคาะประตูบ้าน” เพื่อสอดส่อง ดูแล ป้องปราม และตักเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงในพื้นที่

2. ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม ด้วยการตรวจสอบลักษณะกายภาพถนน จุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จุดที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่ และปรับปรุงแก้ไขให้มีความปลอดภัย และกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัยในการสัญจร เป็นต้น

3. ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ ด้วยการกำกับ ควบคุม ดูแลรถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารไม่ประจำทาง พนักงานขับรถ และพนักงานประจำรถ ถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุก หยุดประกอบกิจการ หรือหลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุก ในการประกอบกิจการช่วงเทศกาลปีใหม่

4. ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจังและต่อเนื่อง รวมทั้ง “ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์” อย่างเข้มข้นภายใต้มาตรฐาน ของกระทรวงสาธารณสุข และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

5. ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ โดยจัดเตรียมความพร้อม โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย และแบ่งมอบพื้นที่ความรับผิดชอบ การติดต่อประสานงาน ให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนทันที

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo