อินโดนีเซียสั่งอาสาสมัครอิสระชาวต่างชาติ ให้เดินทางออกจากพื้นที่ประสบภัยพิบัติ พร้อมระบุ กลุ่มช่วยต่างประเทศ ที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่แผ่นดินไหว-สึนามิ บนเกาะสุลาเวสี ควรถอนกำลังออกมา
ตามปกติแล้ว อินโดนีเซียมักไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เพราะไม่อยากถูกมองว่า ต้องคอยพึ่งพาคนนอกมารับมือกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้น และเมื่อครั้งเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะลอมบอกเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลก็ปฏิเสธความช่วยเหลือต่างชาติ
อย่างไรก็ดี ในการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.5 และคลื่นยักษ์สึนามิ ที่สร้างความเสียหายให้กับชายฝั่งตะวันตกของเกาะสุลาเวสีเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา อินโดนีเซียจำต้องยอมรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เพื่อรับมือกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 1,948 ราย
กระนั้นก็ตาม องค์กรต่างชาติบางราย ระบุว่า พบกับความยากลำบากในการขออนุญาตนำเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์เข้าไปในพื้นที่ ทั้งยังมีความสับสนในเรื่องกฎข้อบังคับด้วย
อินโดนีเซียมีการควบคุมความเคลื่อนไหวของอาสาสมัครกู้ภัยต่างประเทศมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งล่าสุด สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย ก็ได้ทวีตข้อความแจ้งระเบียบข้อบังคับสำหรับกลุ่มเอ็นจีโอต่างชาติ
ข้อความดังกล่าวระบุว่า ไม่อนุญาตให้กลุ่มต่างชาติเข้าไปในพื้นที่โดยตรง และจะต้องดำเนินงานทั้งหมดร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น
“ไม่อนุญาตให้พลเมืองต่างชาติ ที่ทำงานให้กับเอ็นจีโอต่างประเทศเข้าไปเคลื่อนไหวใดๆ ในพื้นที่เกิดภัยพิบัติ และขอแนะนำให้เอ็นจีโอต่างประเทศ ที่นำเจ้าหน้าที่ต่างชาติมาปฏิบัติงานด้วย ถอนกำลังของตัวเองออกในทันที”
ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการในวันนี้ (9 ต.ค.) อยู่ที่ 1,948 ราย ส่วนใหญ่มาจากปาลู เมืองเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า มีผู้สูญหายจำนวนมากน้อยเท่าใด โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองปาลู ที่เจอกับปรากฎการณ์แผ่นดินเหลว
แต่ก่อนหน้านี้ สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซียระบุว่าอาจสูงถึง 5,000 คน
เรื่องอ่อนไหวทางการเมือง
ปัจจุบันมีอาสาสมัครต่างชาติทำงานอยู่ในพื้นที่เกิดภัยพิบัติเพียงไม่กี่รายเท่านั้น รวมถึง เจ้าหน้าที่หน่วยค้นหาผู้รอดชีวิต ท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเรือนในเมืองปาลู และทีมงานจากเยอรมนีที่นำระบบกรองน้ำสะอาดเข้ามา
นักวิเคราะห์ชี้ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียมีความกังวลถึงเรื่องที่จะเปิดทางให้บุคคลภายนอกเข้ามาให้ความช่วยเหลือมากเกินไป เพราะนอกจากจะต้องการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลสามารถจัดการกับภัยพิบัติได้ด้วยตัวเองแล้ว ยังกลัวว่าจะโดนฝ่ายตรงข้ามวิจารณ์อย่างหนัก
นายคีธ เลิฟอาร์ด นักวิเคราะห์อาวุโส จากบริษัทที่ปรึกษา และบริหารจัดการความเสี่ยงคอนคอร์ด คอนซัลดิง ระบุว่า อินโดนีเซียมีความอ่อนไหวทางการเมืองสูง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่กำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น นอกเหนือจากความกังวลในเรื่องอธิปไตยประเทศ