Economics

สนพ.จับตาราคาน้ำมันโลก หลังลิเบียปรับเพิ่มกำลังการผลิต

สนพ. สั่งจับตาราคาน้ำมันโลก หลังลิเบียปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบมาอยู่ที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน การประชุมกลุ่มโอเปกพลัสสิ้นเดือนนี้ และสถานการณ์โควิด-19 ยังคงน่ากังวล

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. ได้เผยถึงราคาน้ำมันดิบราคาน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (16 – 22 พฤศจิกายน 2563) ว่ามีแนวโน้มทรงตัวในกรอบแคบๆ หลังตลาดยังคงกังวลต่อความต้องการใช้น้ำมัน เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการกลับมาบังคับใช้มาตรการเข้มงวดทางสังคม เช่น ในสหรัฐ และยุโรป

นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังลิเบียปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบมาอยู่ที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2563 ประกอบกับนอร์เวย์เตรียมปรับเพิ่มกำลังการผลิตอีก 30,000 บาร์เรล/วัน ภายในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากข่าวดี เรื่องการพัฒนาการผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังมี 2 บริษัทออกมารายงานผลการทดสอบวัคซีนว่าประประสิทธิภาพสูงถึง 95% ซึ่งจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน รวมทั้งการที่ ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้กับ นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ

อีกทั้งให้จับตาการเมืองลิเบียที่ยังไม่สงบ และติดตามกลุ่มโอเปกและประเทศพันมิตร (โอเปกพลัส) ซึ่งจัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญเพื่อเสนอทางเลือกแผนการผลิตน้ำมันในที่ประชุมใหญ่ (วันที่ 30 พ.ย.- 1 ธ.ค. 63)

สนพ.
วัฒนพงษ์ คุโรวาท

โดยรายละเอียดของสถานการณ์ราคาน้ำมัน ดังนี้

สถานการณ์ราคาน้ำมันโลก (16 – 22 พฤศจิกายน 2563) ราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 42.84 และ 40.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 3.49 และ 2.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

  • กลุ่มโอเปกและประเทศพันมิตร (โอเปกพลัส) มีแนวโน้มขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับ 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน ไปสิ้นสุดในไตรมาส 1/64 จากเดิมที่มีกำหนดจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2563 นี้ โดยจะจัดการประชุมเพื่อสรุปแผนการปรับลดกำลังการผลิตในวันที่ 30 พฤศจิกายน และ 1 ธันวาคม 2563
  • ความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 หลังบริษัท Pfizer ได้เสนอยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน
  • บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ สัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 ปรับลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 231 แท่น
  • ราคากลางน้ำมันสำเร็จรูปตลาดภูมิภาคเอเซีย น้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 และ 92 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 46.49 และ 45.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.26 และ 0.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันเบนซิน 91 (Non-Oxy) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 46.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามลำดับ
  • Platts รายงานตลาดน้ำมันเบนซินในเอเชียอ่อนแอ เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวในหน้าหนาว และจากมาตรการLockdown จากวิกฤติโควิด-19 โดยบรูไน, ไต้หวัน, และมาเลเซียต่างออกประมูลขายน้ำมันเบนซินส่งมอบในเดือน ธันวาคม 2563 ด้าน International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ (ณ วันที่ 18 พ.ย. 63) ลดลง 0.92 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 12.43 ล้านบาร์เรล ประกอบกับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลง และการส่งออกจากอินเดียและมาเลเซียที่ปรับลดลง
  • Petroleum Association of Japan (PAJ) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ในญี่ปุ่น สัปดาห์สิ้นสุด 14 พ.ย. 63 ลดลง 0.12 ล้านบาร์เรลอยู่ที่ 12.06 ล้านบาร์เรล น้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (10 PPM) เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ $48.31 ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 1.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  • แรงหนุนจากอุปทานในภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันดีเซล ยังคงได้รับแรงกดดันจากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น ปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลจากจีนในช่วงปลายปี 63 มีแนวโน้มต่ำกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับความต้องการใช้ในอินเดียที่ยังคงแข็งแกร่ง จากรายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ โดย IES ที่สิงคโปร์ (ณ วันที่ 18 พ.ย. 63) ลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 16.09 ล้านบาร์เรล
  • สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณสำรอง Distillates เชิงพาณิชย์ที่สหรัฐ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 144.1 ล้านบาร์เรล

ค่าเงินบาทของไทย : ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.09 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 30.4245 บาท/ดอลลาร์ (ต้นทุนน้ำมันเบนซินลดลง 0.08 บาท/ลิตร น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.22 บาท/ลิตร) ทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.45 บาท/ลิตร (รวมค่าขนส่งน้ำมันทางท่อจากศรีราชา – กรุงเทพฯ 0.15 บาท/ลิตร) และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.47 บาท/ลิตร

ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง : ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 กองทุนน้ำมันฯ มีสินทรัพย์รวม 60,651 ล้านบาท หนี้สินกองทุนฯ 31,608 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ 29,043 ล้านบาท (บัญชีน้ำมัน 37,530 ล้านบาท บัญชี LPG -8,487 ล้านบาท)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo