Finance

แนวโน้มเงินบาทปีหน้าหลุด 30 บาท/ดอลลาร์ กดดันแบงก์ชาติออกมาตรการเพิ่ม

ค่าเงินบาทปิดตลาดแข็งค่าจากช่วงเช้า แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะออกมาตรการให้ลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากเงินไหลเข้า 

ตลาดเงินตลาดทุนของไทยตลอดปี 2563 ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบมากขึ้นจากแนวโน้มความผันผวนและปัจจัยเสี่ยงในตลาดการเงินโลก ซึ่งล่าสุดมีการกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งไทย ภายหลังจากที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สิ้นสุดลง และมีความหวังมากขึ้นต่อการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19

ระหว่างวันที่ 1-19 พ.ย. 2563 พบว่า มีเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นและพันธบัตรรวมกันเป็นจำนวน 6.97 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน ขณะที่เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 10 เดือนที่ 30.14 ก่อนจะกลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 30.30 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น กำลังจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกค่อนข้างมาก ในขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19

อ่านเพิ่มเติมมาตรการธปท. ธปท.เปิดวาล์วเงินไหลออก ‘ฝากเงินเสรี-เพิ่มวงเงินลงทุนหุ้น-ซื้อขายบอนด์เสรี’

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มาตรการดูแลค่าเงินบาทของธปท. เน้นเป้าหมายในการสร้างสมดุลให้กับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายขาเข้า-ขาออกเพื่อเตรียมรับมือกับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่อาจจะมีโอกาสไหลเข้ามาลงทุนในตลาดการเงินไทยมากขึ้นในระยะข้างหน้า ขณะที่ในฝั่งเงินดอลลาร์ฯ เองก็ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าตามสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

อาจต้องใช้เวลาอีกระยะเพื่อติดตามประสิทธิผลของมาตรการดังกล่าวในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะการเพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศให้กับนักลงทุนไทย (เพื่อเพิ่มแรงซื้อเงินตราต่างประเทศ ชะลอเงินบาทแข็ง) เนื่องจากการกระจายพอร์ตการลงทุนยังขึ้นอยู่กับจังหวะและสภาพตลาดต่างประเทศ ผลตอบแทนเปรียบเทียบเพื่อชดเชยกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความรู้ความเข้าใจในการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศสำหรับกรณีนักลงทุนรายย่อย

ขณะที่การกำหนดเกณฑ์ยืนยันตัวตนก่อนการซื้อขายตราสารหนี้อาจช่วยลดความผันผวนที่เกิดจากการพักเงินระยะสั้นของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะมีผลกับการเคลื่อนไหวของเงินบาทในบางช่วง แต่ไม่ใช่มาตรการสกัดเงินทุนไหลเข้า

นอกจากนี้ปัจจัยพื้นฐานจากแนวโน้มการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอาจหนุนให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ก็อาจจะโน้มอ่อนค่าลงเพิ่มเติมในช่วงปีข้างหน้าตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ และสัญญาณการยืนดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าผ่านระดับ 30 บาทต่อดอลลาร์ ในปี 2564 โดยธนาคารกสิกรไทยประเมิน ค่าเงินบาทที่ระดับ 29.00-29.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สิ้นปี 2564 ดังนั้นธปท. อาจจำเป็นต้องเข้าดูแลตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อลดความผันผวนในระยะสั้น และประเมินความจำเป็นของการปรับใช้มาตรการดูแลเงินบาทเพิ่มเติมอีกในระยะต่อๆ ไป 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo