ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าจากเงินไหลเข้า หลังจากรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนักลงทุนขานรับนโยบายของนายโจ ไบเดน ที่สามารถคาดการณ์ได้ ทำให้มีการปรับพอร์ตลงทุนทั่วโลก
นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการเหมาะสมมาดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็ว แม้ในช่วงที่ผ่านมา ได้ดูแลเงินบาท
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบยการเงิน (กนง.) มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงหลังจากแถลงมติ แต่กนง.แสดงความกังวลเงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็ว ซึ่งเป็นผลจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับมาลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
ด้านกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มองว่ามติของกนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50% ตามคาด นับเป็นการคงดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่เงินบาทอ่อนค่ามาที่ระดับ 30.34 ต่อดอลลาร์ในช่วงหนึ่งภายหลังแถลงข่าว
นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทอ่อนค่าลงราว 1% โดยฟื้นตัวจากระดับที่อ่อนค่าในช่วงก่อนหน้านี้ ภายหลังความชัดเจนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และข่าวความสำเร็จของการทดลองวัคซีนโควิด-19 เป็นปัจจัยหนุนให้มีมุมมองเชิงบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกิดใหม่ในเดือนนี้
คณะกรรมการ กนง. กล่าวย้ำถึงแนวโน้มของความจำเป็นที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมในตลาดเงิน หลังจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเร็วๆ นี้
คณะกรรมการ กนง. ประเมินว่า แม้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีกว่าคาดในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ และเปราะบาง ทำให้จำเป็นต้องใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำและมาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
กนง. กล่าวย้ำว่า แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความแตกต่างกันในภาคเศรษฐกิจต่างๆ และตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง ขณะที่สถานการณ์ในปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะครัวเรือนที่มีรายได้น้อย และแม้ว่าสภาพคล่องในระบบการเงินยังอยู่ในระดับสูง ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กและครัวเรือนที่ต้องการสภาพคล่องยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ ในด้านแรงกดดันด้านราคา คณะกรรมการ กนง.มองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มติดลบน้อยลงจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น
คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ความเห็นของ กนง. ยังแสดงถึงมุมมองที่ระมัดระวังต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยังในระดับสูง และยืนยันถึงความจำเป็นที่จะใช้นโยบายการเงินที่มีจำกัดเพื่อดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดปี 2564 ขณะที่คณะกรรมการผู้กำหนดนโยบายต้องการที่จะใช้มาตรการเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเพื่อช่วยเหลือกลุ่มที่เปราะบางอย่างตรงจุด
ด้านบล.เอเชียพลัส มองแนวโน้มค่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่ามีทิศทางแข็งค่าอยู่ที่ 30.00-30.05 บาท/ดอลลาร์ และไม่หลุด 30 บาท/ดอลลาร์ เพราะเป็นบริเวณที่ธปท.จะเข้าแทรกแซง ส่วนในระยะยาว คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 30.40-30.80 บาท/ดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ค่าเงินบาทแนวโน้มแข็งค่า จากเงินไหลเข้าซื้อหุ้น-พันธบัตร
คาดค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าแกว่ง 31.00 – 31.50 บาท/ดอลลาร์
สรท.มองส่งออกปีนี้ดิ่งหนัก! คาดติดลบ 8% จี้รัฐดูแลค่าเงินบาท
