Business

คนละครึ่ง! เปิดลงทะเบียนแล้ว 6 โมงเช้าวันนี้ สำหรับ 722,598 สิทธิ

คนละครึ่ง เปิดลงทะเบียนเพิ่มเติมอีกครั้ง19 พ.ย.นี้ เริ่ม 06.00 น. – 23.00 น. สำหรับ 722,598 สิทธิ “บิ๊กตู่” ติดใจสั่งคลังมาตรการคนละครึ่ง ในระยะต่อไป
วันนี้ (19 พ.ย.) ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. กระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com เพิ่มเติมอีกครั้ง  โดยเป็นการรวบรวมสิทธิคงเหลือจากผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิในรอบที่ผ่านมา จำนวน 722,598 สิทธิ  จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจเตรียมลงทะเบียนผ่านผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com  จนกว่าจะครบจำนวน
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวขึ้น
อย่างไรก็ดี ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งมาก่อน และผู้ประสงค์จะใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งจะไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืนได้ สำหรับการเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมจำนวนกว่า 7 แสนสิทธิ เป็นการเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อให้ครอบคลุมผู้เข้าร่วมโครงการตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ 10 ล้านคน
คนละครึ่ง
รองโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเพิ่มเติมให้กระทรวงการคลังพิจารณารายละเอียดหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ตลอดจนพิจารณาความเป็นไปได้ในการขยายโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกด้วย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 7.17 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 8,773,534 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 18,797 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 9,581 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 9,216 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 200 บาทต่อครั้ง ซึ่งจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ
นายพรชัย ได้ขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนของผู้ไม่หวังดีที่เสนอจะช่วยหาประโยชน์จากโครงการโดยไม่ได้ทำการซื้อขายสินค้าจริง ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้มีการระงับสิทธิร้านค้าที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดเงื่อนไขโครงการแล้ว พร้อมทั้งได้ส่งเอกสารหลักฐานให้แก่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับร้านค้าต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้รับความร่วมมือจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่กวดขันไม่ให้ร้านธงฟ้าและร้านค้าทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าซึ่งเป็นการเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค

คนละครึ่ง ลุยต่อเฟสต่อไป

ขณะที่ นายดนุชา พิชยนันทน์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้กระทรวงการคลัง ไปเร่งพิจารณามาตรการคนละครึ่งในระยะต่อไป หลังจากพบว่า การจัดทำมาตรการที่ผ่านมา ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้ดีมาก ส่วนจะปรับปรุงโครงการด้วยการเพิ่มวงเงินหรือขยายระยะเวลาโครงการเพิ่มเติมอย่างไรนั้น กระทรวงการคลังต้องไปทำการบ้าน และเสนอมาให้ที่ประชุม ศบศ.เห็นชอบในครั้งต่อไป ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้
คนละครึ่ง
ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบแพ็คเกจท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เข้ามากักตัวและมาเที่ยวในประเทศไทย (Amazing Thailand Plus Special Package)

สำหรับแพ็คเกจดังกล่าว นักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วเครื่องบิน ขอวีซ่า จองโรงแรมที่พักเป็นสถานที่กักตัว และแพ็คเกจทัวร์ ซึ่งจะต้องจ่ายเงินทันที ผ่านเว็บไซต์ของการบินไทย หรือ ททท.โดยมีแพ็คเกจให้เลือก 3 อย่าง คือ พัก 2 คืน ฟรี 1 คืน ในกรุงเทพฯ, พัก 2 คืนฟรี 1 คืน ในกรุงเทพฯ และเดินทางไปพักโรงแรมอื่นด้วยรถยนต์ใกล้ๆ กรุงเทพฯ และ ทางเลือกที่สาม คือ พัก 3 คืน ฟรี 2 คืน ในกรุงเทพฯ และเดินทางไปพักโรงแรมอื่นในจังหวัดที่เดินทางไปได้ด้วยเครื่องบิน

“แพ็คเกจนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึง 31 มีนาคม 2564 และเดินทางได้ถึง 30 เมษายน 2564  โดย ททท.จะสนับสนุนเงินค่าเดินทางทั้งค่ารถ ค่าตั๋วเครื่องบินให้ โดยใช้เงินของ ททท.เองประมาณ 20 ล้านบาท” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

ที่ประชุมยังเห็นชอบการปรับสิทธิประโยชน์ ให้กับคนที่ซื้อบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท ประเภทบัตรที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป อายุบัตรตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป หรือเป็นสมาชิกเดิม ที่อายุบัตรเหลือไม่ต่ำกว่า 5 ปี

เมื่อกลุ่มดังกล่าว เลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ลงทุนบริษัทจดทะเบียนในไทย หรือลงทุนในตลาดหุ้น ตามเกณฑ์คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนด มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์  ภายใน 1 ปีนับตั้งแต่ได้รับอนุมัติให้เป็นสมาชิก ก็สามารถขอใบอนุญาตทำงานสำหรับคนต่างด้าว (Work Permit) ได้ เบื้องต้นตั้งเป้าหมายขายบัตรนี้ให้ได้ปีละ 1,000 ใบ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight