กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยผลตรวจ “ลูกอม-หมากฝรั่ง” ในท้องตลาด 987 ตัวอย่าง พบไม่ผ่านมาตรฐาน 9% มีสีที่สร้างอันตรายต่อร่างกาย
นพ. ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร ได้รวบรวมผลการตรวจวิเคราะห์สีอินทรีย์สังเคราะห์ในลูกอม ทั้งชนิดแข็ง ชนิดนุ่ม และหมากฝรั่ง โดยเป็นตัวอย่างที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) และผู้ประกอบการส่งตรวจระหว่างปี 2560-2562 จำนวน 387 ตัวอย่าง
ผลการตรวจพบว่า มีการใช้สีอินทรีย์สังเคราะห์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 30 ตัวอย่าง หรือคิดเป็น 9.8% โดยจำแนก ดังนี้
- ลูกอมชนิดแข็ง
ลูกอมที่มีลักษณะเป็นเม็ดแข็งละลายช้า เมื่อเคี้ยวจะแตก จำนวน 147 ตัวอย่าง พบไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 7 ตัวอย่าง ร้อยละ 5.7 ตกมาตรฐานเนื่องจากพบสี erythrosine ในปริมาณตั้งแต่ 2.9 ถึง 18.0 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
- ลูกอมชนิดนุ่ม
ลูกอมที่มีลักษณะเป็นเม็ดนิ่มและอ่อนตัว สามารถเคี้ยวได้ จำนวน 204 ตัวอย่าง พบไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 21 ตัวอย่าง ร้อยละ 13.9 ตกมาตรฐานเนื่องจากในจำนวนนี้พบสี erythrosine จำนวน 15 ตัวอย่าง ในปริมาณตั้งแต่ น้อยกว่า 1.0 ถึง 38.8 มิลลิกรัม ต่อกิโลกรัม และสี amaranth จำนวน 6 ตัวอย่าง ในปริมาณตั้งแต่ 2.2 ถึง 23.7 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งสีทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่อนุญาตให้ใช้ในลูกอม
- หมากฝรั่ง
จำนวน 36 ตัวอย่าง ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 2 ตัวอย่าง ร้อยละ 6.3 เนื่องจากพบสี quinoline yellow ซึ่งสีชนิดนี้ไม่อนุญาตให้ใช้ในหมากฝรั่ง
ทั้งนี้ สีอินทรีย์สังเคราะห์เป็นวัตถุเจือปนอาหารที่มีการประเมิน ความปลอดภัยแล้ว และอนุญาตให้ใช้เติมในอาหาร แต่ปริมาณที่ใช้ต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (เลขที่ 389) พ.ศ.2561 เรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 5)
นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า ลูกอมและหมากฝรั่งเป็นอาหารที่อนุญาตให้ใช้สีอินทรีย์สังเคราะห์ เพื่อเติมแต่งผลิตภัณฑ์ แต่ปริมาณและชนิดของสีที่ใช้ ต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
จากการรวบรวมข้อมูลผลตรวจวิเคราะห์ระหว่างปี 2560-2562 ยังคงตรวจพบว่า มีการใช้สีอินทรีย์สังเคราะห์ทั้งในลูกอม และหมากฝรั่ง ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานอยู่บ้าง โดยสีอินทรีย์สังเคราะห์เป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ใช้แต่งสีอาหารให้มีสีสันที่น่ารับประทานมากขึ้น
หากร่างกายได้รับในปริมาณมากหรือบ่อยครั้ง ย่อมก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น สีจะไปเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้น้ำย่อยอาหารออกมาไม่สะดวก อาหารย่อยยาก เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และขัดขวางการดูดซึมอาหาร ทำให้ท้องเดิน น้ำหนักลด อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน ก่อให้เกิดภูมิแพ้หรืออาจมีอาการของตับ ไตอักเสบ
สีอินทรีย์สังเคราะห์บางชนิดอาจก่อให้เกิดมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลือง และอวัยวะอื่นๆ และอันตรายจากสารอื่น ที่ไม่ใช่สีผสมอาหาร เช่น โลหะหนัก
นอกจากนี้ ส่วนประกอบหลักของลูกอม คือ น้ำตาล หากบริโภคมากเกินไปโดยเฉพาะเด็กอาจทำให้ฟันผุ หรือเป็นโรคอ้วนได้
“การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ลูกอมและหมากฝรั่ง ควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ว่าอยู่ในภาชนะบรรจุปิดสนิท ไม่มีร่องรอย ถูกเจาะหรือฉีกขาด มีฉลากแจ้งส่วนประกอบ และเลขสารบบอาหารแสดงว่าผ่านการขึ้นทะเบียน อย. แล้ว เก็บไว้ในที่เย็นไม่อับชื้น ปิดสนิทป้องกันมดแมลง”
“ไม่ควรซื้อลูกอมหรือหมากฝรั่งที่มีสีฉูดฉาด อาจมีการใช้สีที่ไม่ใช่สีผสมอาหาร หรือใช้สีที่มีส่วนผสม หรือปนเปื้อนโลหะหนักเคลือบผิว เพื่อให้ดูน่ารับประทาน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ของทรงคุณค่า!ประมูลหมากฝรั่งชิ้นสุดท้ายเฟอร์กี้ราคาพุ่ง 16 ล้าน
- สินค้าแบรนด์ใหญ่ แห่ใช้แตงโมกระตุ้นตลาด รับกระแสสุขภาพ
- เปิดเคล็ดลับแก้ปัญหา ‘ปวดหู-หูอื้อ’ ขึ้นเครื่องกลับบ้านช่วงปีใหม่