Politics

‘พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ’ จ่อถล่ม! ไทยเตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก

พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ จ่อถล่ม! เตือนประเทศไทยเสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก ช่วงวันที่ 28 – 30 ตุลาคม 2563 ชี้ 31 จังหวัดเสี่ยงหนัก ทะเลคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ” (พายุระดับ 5) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 28 – 30 ตุลาคม 2563) ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2563

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (27 ตุลาคม 2563) “พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ” (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ประมาณ 565 กิโลเมตร ที่ละติจูด 13.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พยากรณ์อากาศ27101

ทั้งนี้ คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน (พายุระดับ 3) ก่อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นบริเวณกว้างและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 29-30 ตุลาคม 2563 โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้

ในวันที่ 28 ตุลาคม 2563

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ในช่วงวันที่ 29-30 ตุลาคม 2563

ภาคเหนือ : จังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและลมแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“กอนช.” ออกประกาศเตือนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก – น้ำท่วม

ด้านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมขัง ฉบับที่ 14/2563 หลังประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 1 (243/2563) ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2563 เวลา 17.00 น. เรื่อง พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง

ทั้งนี้ ประเมินฝนจากแผนที่คาดการณ์ปริมาณฝน (One Map) พบว่าวันที่ 28 – 30 ตุลาคม 2563 จะมีฝนเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับน้ำในแหล่งน้ำและลำน้ำเพิ่มสูงขึ้น จากการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำเกินความจุและน้ำหลากเอ่อล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำ

เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำเกินความจุเก็บกัก อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ อ่างเก็บน้ำ ลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำมูลบน จังหวัดนครราชสีมา อ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัดระยอง, อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 124 แห่ง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 10 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 76 แห่ง ภาคกลาง 4 แห่ง ภาคตะวันออก 20 แห่ง ภาคตะวันตก 11 แห่ง และภาคใต้ 3 แห่ง

เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง แม่น้ำมูล บริเวณตำบลหนองยาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา ตำบลทุ่งกุลา อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ และตำบลนิคม อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์, ลำปะเทีย บริเวณตำบลอีสานเขต อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์, ลำชี บริเวณตำบลตระแสง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์, ห้วยทับทัน บริเวณตำบลห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ, แม่น้ำปราจีนบุรี บริเวณตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี, แม่น้ำบางปะกง บริเวณตำบลบางเตย อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี, คลองชี บริเวณตำบลเขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง และแม่น้ำตาปี บริเวณตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ พิจารณาบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก และลำน้ำต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 95% หรือเกินเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและรองรับน้ำหลาก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK