เจาะลึก ‘ศรีสวัสดิ์’ หุ้นลิสซิ่ง วิ่งแรง กับ 5 กลุ่มธุรกิจ ที่มีความน่าสนใจ แถมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันพบมีกำไรโตต่อเนื่อง!
นาทีหุ้นกลุ่มลิสซิ่งที่เน้นปล่อยสินเชื่อให้กับรายย่อย ถูกกลับมาให้น้ำหนักอีกครั้ง หลังแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตโดดเด่นในช่วงครึ่งหลังของปี ด้วยปัจจัยหนุนจากมาตรการผ่อนคลาย และเยียวยาจากภาครัฐ โดยหนึ่งในหุ้นที่ถูกพูดถึงอย่างมากก็คือ หุ้นศรีสวัสดิ์ หรือ SAWAD นั่นเอง
รู้จักธุรกิจศรีสวัสดิ์
บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น SAWAD คือหนึ่งในผู้นำของกลุ่มธุรกิจลิสซิ่งในเมืองไทย โดยประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” ประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลัก ดังนี้
1. สินเชื่อรายย่อยแบบ มีหลักประกัน ประเภททะเบียนรถเก่าทุกประเภท บ้านและโฉนดที่ดิน
2. สินเชื่อรายย่อยแบบ ไม่มีหลักประกัน ภายใต้การกำกับ
3. บริหารสินทรัพย์
4. รับจ้างติดตามหนี้
5. บริการที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจสินเชื่อ
สำหรับกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ SAWAD นั้นเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ เช่น ร้านอาหาร ค้าขาย ขนส่ง และกลุ่มเกษตรกรรม เป็นต้น
จุดเด่นของศรีสวัสดิ์
จุดแข็งทางธุรกิจของ SAWAD ที่ต่างจากผู้ให้บริการสินเชื่อเจ้าอื่นๆ คือการหันมาเน้นสินเชื่อที่เอาบ้านเป็นหลักประกัน ซึ่งเป็นหลักประกันที่มีมูลค่าสูง และเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของยอดสินเชื่อของบริษัทได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนสินเชื่อของบริษัทมาจาก รถยนต์ 50% บ้าน 30% รถจักรยานยนต์และอื่นๆ อีก 20%
ขณะเดียวกัน ยังมีการแตกไลน์ธุรกิจมุ่งเน้นที่กลุ่มประกันมากขึ้นด้วย โดยจับมือกับ 2 พันธมิตร ได้แก่ กลุ่มเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ และกลุ่มชับบ์สามัคคีประกันภัย เพื่อนำเสนอบริการด้านประกันภัยให้กับลูกค้า ซึ่งการที่ SAWAD มีสาขาให้บริการทั่วประเทศรวม 4,210 สาขา ทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้มากขึ้น โดยที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เพราะธุรกิจประกันเป็นธุรกิจที่มีมาร์จินค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ บริษัทยังมีต้นทุนทางการเงินที่ดีขึ้น เนื่องจากได้รับปรับเพิ่ม Credit Rating จาก BBB เป็น BBB+ รวมถึงได้ประโยชน์จากตลาดตราสารหนี้ที่อยู่ในภาวะดอกเบี้ยต่ำอีกด้วย
ตัวเลขผลประกอบการศรีสวัสดิ์
ไตรมาส 2/2563 บริษัทมีรายได้เท่ากับ 2,626 ล้านบาท เติบโต 19.7% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 982 ล้านบาท เติบโต 12.4% (YoY) จากพอร์ตสินเชื่อที่ยังคงเติบโตค่อนข้างดี ซึ่งเข้ามาทดแทนรายได้จากค่าธรรมเนียมที่ลดลง เนื่องจากมีการปรับค่าธรรมเนียมติดตามทวงหนี้ลงในช่วงโควิด
แนวโน้มในช่วงที่เหลือคาดว่าการปล่อยสินเชื่อจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งได้ผลดีจากการที่กลุ่มแบงก์เพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อ ดังนั้น จึงทำให้ผู้ที่ต้องการเงินทุนจะหันมาใช้บริการของกลุ่ม Non-Bank มากขึ้น ขณะเดียวกันรายได้ค่าธรรมเนียมน่าจะดีขึ้นหลังจากปลดล็อกดาวน์ แบะการตั้งสำรองมีแนวโน้มลดลงหลังจากตั้งไปพอสมควรในช่วงครึ่งปีแรก
นางสาวธิดา แก้วบุตตา กรรมการ SAWAD เปิดเผยว่า ประมาณการณ์ยอดปล่อยสินเชื่อทั้งปี 2563 จะเติบโต 20-30% จากการปล่อยสินเชื่อที่ดิน รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ สอดคล้องกับ บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า ที่มองว่าผลประกอบการปี 2563 คาด SAWAD จะมีกำไรสุทธิ 4,290 ล้านบาท โต 14.2% (YoY)
โดยภาพรวมแล้วหุ้น SAWAD จะเรียกว่าเป็นอีกนึ่งหุ้นแกร่งที่พื้นฐานไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่จากวิกฤติที่เกิดขึ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงก็มีเพียง 2 เรื่องหลักๆ คือ
1. ประเด็นการปรับลดเพดานดอกเบี้ยของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจาก 28% เหลือ 24% และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จาก 36% เหลือ 33% ภาพรวมแล้วหุ้น SAWAD จะเรียกว่าเป็นอีกนึ่งหุ้นแกร่งที่พื้นฐานไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่จากวิกฤติที่เกิดขึ้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงก็มีเพียง 2 เรื่องหลักๆ คือ
2. การที่ธนาคารออมสิน จะเข้ามาแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อรายย่อย โดยส่วนตัวแล้วมองว่าเป็นลูกค้าคนละกลุ่มกัน โดยศรีสวัสดิ์ มีข้อได้เปรียบเรื่องระยะเวลาการอนุมัติสินเชื่อ และจำนวนสาขาที่ครอบคลุมกว่าจึงน่าจะมีผล กระทบต่อฌธุรกิจหลักไม่มากอย่างที่คิด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘JKN’ เซอร์ไพรส์ตลาด ราคาหุ้นพุ่งแรง
- เปิดกลยุทธ์ ‘4 หุ้นไทย’ ปรับแผนแก้วิกฤติอย่างไร
- ส่อง 4 ธีมลงทุนหุ้นเด่น ชนะวิกฤติ จากตลาดหลักทรัพย์ฯ