World News

‘UN’ กระทุ้งผ่อนผันชำระหนี้ ช่วยประเทศกำลังพัฒนาฝ่าวิกฤติโควิด-19

“เลขาฯ UN” กระทุ้ง G20 ผ่อนผันชำระหนี้ ช่วยประเทศยากไร้และกำลังพัฒนา ฝ่าวิกฤติโควิด-19

อันโตนิอู กูแตร์เรส เลขาธิการ สหประชาชาติ (UN) เรียกร้องการผ่อนผันการชำระหนี้สำหรับประเทศยากไร้และมีรายได้ปานกลาง เพื่อเอื้ออำนวยการรับมือกับวิกฤติโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

UN โควิด-19

“ผมหวังว่า แผนริเริ่มผัดผ่อนภาระหนี้สิน (ของกลุ่มจี20) จะได้รับการยืดเวลาและขยายขอบเขตให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและประเทศรายได้ปานกลางทั้งหมดที่เดือดร้อน ภาคเอกชน รวมถึงหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ต้องมีส่วนร่วมในการบรรเทาทุกข์ครั้งนี้” กูแตร์เรสระบุในการแถลงข่าวร่วมกับจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และแอนดรูว์ โฮลเนส นายกรัฐมนตรีจาเมกา หลังเสร็จสิ้นการหารือของคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนเพื่อการพัฒนา

กูแตร์เรสสนับสนุนการจัดหาทรัพยากรมหาศาลแก่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาผ่านธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาระดับพหุภาคีแห่งอื่นๆ ไม่ว่าจะด้วยการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่หรือสิ่งที่สรรค์สร้างขึ้นใหม่ก็ตาม ด้วยรูปแบบการให้สินเชื่อแบบผ่อนปรน ซึ่งมีความสำคัญต่อกลุ่มประเทศที่เดือดร้อนหนักที่สุด

รัฐบาลแต่ละแห่งต้องมีทรัพยากรเพื่อลงทุนด้านการสร้างและรักษาตำแหน่งงาน ผลักดันการศึกษาและธุรกิจกลับมาดำเนินการตามปกติ และจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อสร้างโลกที่ก้าวหน้า แข็งแกร่ง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และดียิ่งขึ้น

กูแตร์เรสกล่าวว่า ประชาคมระหว่างประเทศควรเพิ่มทรัพยากรที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) สามารถเข้าถึง ซึ่งครอบคลุมการจัดสรรสิทธิถอนเงินพิเศษใหม่และการจัดสรรสิทธิถอนเงินพิเศษที่มีอยู่โดยสมัครใจ

“เห็นได้ชัดว่านี่เป็นวิกฤตประเภทที่ IMF ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับมือ เพื่อทำให้เศรษฐกิจที่ขาดเสถียรภาพกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง โลกไม่อาจกลับมาฟื้นตัวจนกว่าเราจะหยุดยั้งไวรัสได้”

กูแตร์เรสเรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศร่วมกันจัดสรรเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.1 ล้านล้านบาท แก่โครงการเร่งปฏิบัติการต้านโควิด-19 (ACT-Accelerator) อันเป็นความร่วมมือระดับโลกที่นำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อพัฒนาการวินิจฉัย การบำบัดรักษา และวัคซีนโรคโควิด-19 โดยขณะนี้จำเป็นต้องใช้เงิน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.75 แสนล้านบาท ขับเคลื่อนโครงการจากระดับริเริ่มสู่ระดับที่ใหญ่ขึ้น

ปัจจุบันทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ยืนยันผลแล้วกว่า 33 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิตทะลุ 1 ล้านราย ซึ่งกูแตร์เรสกล่าวว่า “จนถึงขณะนี้เรายังไม่เห็นความสมัครสมานมากพอต่อการสนับสนุนขนานใหญ่แก่ประเทศและชุมชนต่างๆ ที่เดือดร้อน”

อนึ่ง โรคโควิด-19 เป็นวิกฤตเฉียบพลัน แต่การแพร่ระบาดนี้ได้เผยให้เห็นปัญหาเรื้อรังที่มีอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งการเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนเหล่านี้ถือเป็นการทำร้ายโลกของเรา โดยกูแตร์เรสทิ้งท้ายว่า “เราต้องหยุดไวรัส รับมือ ฟื้นฟู และเสริมสร้างระบบของเราให้แข็งแกร่งเพื่ออนาคตข้างหน้า”

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo