“บิ๊กตู่” โวยสื่อถาม “รัฐบาลตูดขาด” ลั่นชี้แจงมาแล้ว 5 คลัง ยันพร้อมจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ 22 ก.ย.นี้ ด้าน “ปลัดคลัง” ยันรัฐบาลมีเงินเพียงพอดูแลเศรษฐกิจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในการประชุม ครม. วันนี้มีหลายเรื่องพิจารณาโดยประชุมกันตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย ซึ่งเป็นปกติของ ครม. ในรัฐบาลเรา โดยหลายอย่างนำเสนอเข้ามาเพื่อนำสู่การแก้ปัญหา ทั้งในส่วนที่เป็นปัญหาอุปสรรคจากข้อเรียกร้องของประชาชน ไม่ว่าการใช้จ่ายและการเบิกจ่ายต่างๆ
“รัฐบาลพยายามแก้ไขในทุกมิติ แต่เนื่องจากสถานการณ์ ไม่ใช่สถานการณ์ปกติในเวลานี้ อะไรต่างๆ ก็อาจมีข้อติดขัดอยู่บ้างในวิธีการหรือกลไกใหม่ๆที่จะต้องออกไปที่ต้องสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดยยืนยันว่ารัฐบาลมุ่งหวังจะทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะในช่วงนี้ให้ดีที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการว่า เรื่องนี้ได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว แต่มีหลายคนมาโยงว่ารัฐบาลเงินไม่พอ ข้อเท็จจริงไม่ใช่ มันเกี่ยวกับระบบการจ่าย การลงทะเบียน ซึ่งจะมีการเร่งรัดการดำเนินการให้เร็วที่สุดให้ทันกำหนดวันที่ 22 กันยายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ว่า การที่กระทรวงการคลังเปลี่ยนช้างตัวใหม่ คิดว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหารัฐบาลตูดขาดได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ หันมาชี้หน้าพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธว่า “ใครบอกรัฐบาลตูดขาด ชี้แจงมาแล้ว 5 ครั้ง คุณไปอยู่ที่ไหนมา”
ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยัน กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย ร่วมแก้ปัญหาการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเรียบร้อยแล้ว คงล่าช้าเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น โดยยืนยันว่า ไม่มีปัญหาในการโอนให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ
สำหรับงบประมาณรายจ่ายปี 2564 เมื่ออิงการใช้งบปี 2563 ไปพลางก่อน ทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการเบิกจ่าย และยืนยันว่าเงินคงคลังมีเพียงพอกว่า 300,000 ล้านบาท จึงไม่มีปัญหาตามกระแสข่าว ส่วนโครงการลงทุน เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายมีการบังคับใช้ยังเดินหน้าต่อไปได้เหมือนเดิม
สำหรับการหารายได้เข้าประเทศ ยังคงต้องดึงรายได้จากนักท่องเที่ยวเข้ามาเสริม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศที่ไม่มีปัญหาโควิดนานหลายเดือน เช่น จีน ไต้หวัน เยอรมนี และยุโรปบางประเทศ ด้วยการคัดกรองผู้เดินทางเข้ามาตามมาตรฐานของกระทรวงสาธาณสุข เช่น จีน ขณะนี้มี 20 มณฑลปลอดจากเชื้อโควิด ประชากร 800 ล้านคน หากเดินทางเข้าไทยประมาณ 1% หรือ 8 ล้านคน ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวได้บ้าง อีกทั้งเมื่อหลายประเทศพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิดแล้วจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นายกฯ’ ห่วงชุมนุม 19 กันยายน ลั่น! อย่ากดดันเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
- โปรดเกล้าฯ ตั้ง ‘บิ๊กแดง-ณรัชต์’ เป็นรองเลขาธิการพระราชวัง
- ‘บิ๊กป้อม’ รู้แล้ว!! จังหวัดไหนเตรียมเคลื่อนพลร่วมม็อบ 19 ก.ย.นี้
