COVID-19

กรมสุขภาพจิต แนะอย่าท้อถอย แม้ ไทยเจอผู้ติดเชื้อโควิด-19 ‘พลังใจ’ ด่านสู้โควิด

ไทยเจอผู้ติดเชื้อโควิด-19 กรมสุขภาพจิต กระตุ้นประชาชน อย่าท้อถอย ใช้พลังใจ ความรู้ ดูแลตัวเอง ช่วยกันปกป้องประเทศ ร่วมกับบุคลากรสาธารณสุข อสม.

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดี กรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า จากสถานการณ์หลังจาก ไทยเจอผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ และเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ รายแรกในรอบ 101 วัน เป็นสถานการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนก ให้กับประชาชนไทย

ไทยเจอผู้ติดเชื้อโควิด-19

กรมสุขภาพจิต มีความห่วงใยประชาชนไทย และอยากกระตุ้นประชาชน ให้ไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้ ขอให้ใช้พลังใจ และ ความรู้ความเข้าใจ ในการป้องกันตัวเองที่ได้สั่งสมมาตลอด ช่วยกันป้องกัน การระบาดใหญ่ในประเทศ ไปพร้อม ๆ กับ บุคลากรสาธารณสุข

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงที่ผ่านมานั้นเ ป็นเหตุการณ์ที่ทราบดีว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ คล้าย ๆ ในหลายประเทศ ซึ่งจากพลังของประชาชน และ บุคลากรสาธารณสุข ที่ทำงานร่วมกันอย่างหนัก มาตลอด ทำให้เราปราศจากการระบาด ภายในประเทศ ได้มากกว่า 3 เดือน และได้รับการยกย่องว่า เป็นประเทศที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ดีระดับโลก

อย่างไรก็ตาม การพบผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศอีกครั้ง ไม่ควรมองว่าเป็นความล้มเหลวของ บุคลากรสาธารณสุข หรือประชาชน เพราะสถานการณ์เช่นนี้ เกิดกับประเทศจำนวนมากทั่วโลก ที่แม้มีมาตรการป้องกันสูงสุดก็ตาม เนื่องจากเป็นลักษณะของ โรคระบาดอุบัติใหม่ ที่มีโอกาสระบาดซ้ำได้เสมอ

“พลังความร่วมมือของประชาชน และ บุคลากรสาธารณสุข ที่ผ่านมาจึงไม่ควรถูกมองว่าด้อยค่าจากเหตุการณ์ครั้งนี้”นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าว

การรายงานพบผู้ป่วยจากการติดเชื้อภายในประเทศ 1 รายในขณะนี้ แม้อาจหมายถึง โอกาสเสี่ยง ที่จะพบผู้ป่วย ที่ได้รับเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้น หลังจากนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่า ประเทศไทย จะต้องมีการระบาดระลอกที่ 2 ที่มีความรุนแรงเสมอไป

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต1

ทั้งนี้ หากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ช่วยเหลือกัน และทำงานอย่างเต็มศักยภาพ ในทุกภาคส่วนเหมือนที่ผ่านมา โอกาสที่จะป้องกันการระบาดที่มีผลกระทบรุนแรงก็มีแนวโน้มสูงขึ้นตามไปด้วย

กรมสุขภาพจิต จึงอยากกระตุ้นให้พี่น้องประชาชนไม่ท้อถอย ไม่ยอมแพ้ ใช้พลังใจ “อึด ฮึด สู้” และควรใช้เหตุการณ์นี้ เป็นการกระตุ้นเตือนให้ ช่วยกันสอดส่องดูแล และยังคงมาตรการ ดูแลตัวเองอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ทั้งการสวมหน้ากากผ้า ล้างมือ กินร้อนช้อนส่วนตัว อย่างสม่ำเสมอในระยะยาว

นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อไปว่า กรมสุขภาพจิต ขอแสดงความห่วงใย และขอเป็นกำลังใจให้ บุคลากรสาธารณสุข และพี่น้อง อสม. ทุกท่านที่ทำงานอย่างแข็งขันมาโดยตลอด ทุกท่าน คือความหวัง ของพี่น้องประชาชนไทยทุกคน

นอกจากนั้น กรมสุขภาพจิต ยังตระหนักถึง ความเครียดของประชาชน และ บุคลากรสาธารณสุข ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยวางแผนการติดตาม ความเครียด และความกังวลอย่างใกล้ชิด และแจ้งให้หน่วยบริการ ด้านสุขภาพจิตในพื้นที่ ให้บริการอย่างเต็มศักยภาพ

พร้อมกันนี้ กรมสุขภาพจิต ขอส่งเสริมให้คนทุกคน ติดตามข่าวสารช่วงนี้ อย่างใกล้ชิด โดยรับฟังข้อมูลข่าวสาร อย่างมีสติ รับฟังด้วยความตระหนัก แต่ไม่ตระหนก ระมัดระวังข่าวลือ และ ข่าวปลอม ที่อาจแพร่ระบาด เช่นเดียวกับ ในช่วงที่มีการระบาดครั้งก่อน โดยเน้นการรับข่าว จากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

เมื่อพบว่าสภาพจิตใจ เปลี่ยนแปลงไป เศร้า หรือ วิตกกังวลมากขึ้น สามารถพูดคุยปรึกษา กับคนรอบข้าง หรือ คนใกล้ชิด และสามารถใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่ประเทศเมียนมา พบการระบาดของโรคโควิด-19 ย่อมสร้างความน่ากังวลใจให้กับชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาวระนอง ที่มีพื้นที่จังหวัดติดต่อกับเมียนมา เป็นทางยาว

ทั้งนี้ นายอนุทินได้ลง จังหวัดระนอง เพื่อดูความพร้อม ในแผนการรับมือกับสภาวะโรคระบาด หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จะต้องจัดการอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่ามา กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่า มีความสามารถในการจัดการปัญหา ไม่ให้ลุกลามบานปลาย

สิ่งที่น่าชื่นชมคือพ่อแม่พี่น้องคนไทย ยังตั้งการ์ดอยู่เสมอ ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ ถือเป็นวัคซีนที่ที่สุด ในยามนี้ ส่วนใครที่การ์ดตกบ้าง ก็ขอให้กลับมาตั้งการ์ดสูง เพราะเรื่องโรคระบาด ประมาทกันไม่ได้

การป้องกันตัวเอง ไม่ได้เพียงป้องกันโรคโควิด แต่ยังช่วยป้องกันโรคในระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ด้วย ผลที่ตามมาคือคนไทยสุขภาพแข็งแรง และภาครัฐยังประหยัดงบประมาณในการรักษาเป็นจำนวนเงินมหาศาล

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo