Business

‘นกแอร์’ แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ขาดทุนรวม 4.3 พันล้าน เพิ่มขึ้นเกิน 1000%

เจ็บหนัก! “นกแอร์” แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 รวม ขาดทุน 4.3 พันล้าน เพิ่มขึ้น 1,454.40% แจงเกิดจากผลกระทบโควิด-ปิดนกสกู๊ต-มาตรฐานการเงินใหม่

วันนี้ (14 ส.ค. 63) บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2563 ต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นกแอร์ ขาดทุน

“โควิด-19” พ่นพิษหนัก

งบการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสำหรับไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 2,963.40 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลขาดทุนจำนวน 391.29 ล้านบาท แบ่งเป็นผลขาดทุนของบริษัทใหญ่จำนวน 2,330.05 ล้านบาท และผลขาดทุนจากส่วนได้ส่วนเสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม 633.35 ล้านบาท

เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเดินทางทางอากาศและสถานการณ์ของสายการบินทั่วโลก อีกทั้งการจำกัดการเดินทางทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารทางอากาศโดยรวมลดลง ทำให้สายการบินนกแอร์ได้ทยอยยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเส้นทางที่เดินทางไปยังประเทศจีนทั้งหมดเป็นการชั่วคราว

นอกจากนั้น ยังได้ทยอยยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มเติมในเส้นทางเวียดนาม พม่า และญี่ปุ่น รวมถึงลดจำนวนเที่ยวบินภายในประเทศบางเส้นทางตามจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง โดยอัตราการใช้เครื่องบินต่อลำเฉลี่ยลดลงจาก 9.71 ชั่วโมงปฏิบัติการต่อวัน เป็น 8.35 ชั่วโมงปฏิบัติการต่อวันเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลง 14.01% ส่งผลให้รายได้ของบริษัทลดลงค่อนข้างมาก ในขณะที่บริษัทยังคงต้องแบกรับภาระต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดำเนินงาน โดยเฉพาะต้นทุนคงที่ที่ค่อนข้างสูงในอัตราเท่าเดิม

นกแอร์

“นกแอร์” ขาดทุน รวม 4,372 ล้าน

สำหรับงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 2,614.21 ล้านบาท ลดลง 24.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทมีจำนวน 6,986.28 ล้านบาทเปรียบเทียบกับช่วงเดียกวันของปีก่อน ที่มีค่าใช้จ่ายรวม 3,750 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากการเลิกกิจการของบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เป็นยอดเงิน 2,402.10 ล้านบาท และรับรู้ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน

จากการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 เรื่องสัญญาเช่ามาใช้ เป็นยอดเงิน 1,054 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิรวมสำหรับไตรมาสนี้จำนวน 4,372.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,454.40% จากปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนจำนวน 281.27 ล้านบาท

หลังจากนกแอร์ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 แล้ว ตลาดหลักทรัพย์ก็ได้ขึ้นเครื่องหมาย SP และ NP สำหรับหุ้นนกแอร์ NOK กรณีผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินไตรมาสที่ 1

โดยเครื่องหมาย SP แสดงการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว และเครื่องหมาย NP แสดงว่าบริษัทจดทะเบียนมีข้อมูลที่ต้องรายงานและตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากบริษัท

นกแอร์ สายการบิน ขาดทุน

“นกแอร์” ชิงยื่นฟื้นฟูกิจการ ก่อนประกาศงบ

ทั้งนี้ นกแอร์ได้ขอเลื่อนการประกาศงบไตรมาส 1 ปี 2563 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาเป็นวันนี้ โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) นกแอร์ วาระพิเศษครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติให้นกแอร์ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ ต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้ พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483

ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ ดังกล่าวไว้พิจารณาแล้วในวันเดียวกัน เป็นคดีดำ ฟฟ 21/2563 และนัดไต่สวนคำร้องฯ ในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น. ส่งผลให้สายการบินนกแอร์อยู่ในสภาวะ พักการชําระหนี้ (Automatic Stay) โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2553 นกแอร์มีหนี้สินต่อเจ้าหนี้หลายรายรวมกันเป็นจำนวน 26,522,203,418 บาท

นอกจากนี้ บริษัทได้เสนอให้ บริษัท แกรนท์ ธอนตัน สเปเชียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับ นายปริญญา ไววัฒนา, นายไต้ ชอง อี, นายเกษมสันต์ วีระกุล, นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร และนายชวลิต อัตถศาสตร์ กรรมการของบริษัทเป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo