ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ร่วงลงมาเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ หลังจากที่ทะยานขึ้น 5 วันติดต่อกัน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 26,102.87 จุด ร่วงลง 184.16 จุด หรือ 0.70% ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ที่ 3,177.93 จุด ขยับลงมา 1.79 จุด หรือ 0.06% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,493.54 จุด บวก 59.89 จุด หรือ 0.57%
เมืองไมอามี ในรัฐฟลอริดา กลายมาเป็นจุดร้อน (hot spot) ในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แห่งล่าสุดในสหรัฐ และต้องระงับการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ส่วนเท็กซัส รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นวันที่ 8 ติดต่อกันแล้ว
ดัชนีย่อยหุ้นกลุ่มพลังงาน ร่วงลงมา 2% ท่ามกลางความกังวลถึงความต้องการบริโภคน้ำมัน ขณะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากสุดในช่วงล็อกดาวน์ ก็ร่วงลงมาเช่นกัน และดัชนีย่อยกลุ่มสายการบิน ดิ่งลง 4.2%
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของโนวาแวกซ์ บริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นเกือบ 40% ในวันนี้ หลังมีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐ ประกาศให้เงินทุนแก่บริษัทจำนวน 1,600 ล้านดอลลาร์ หรือราว 50,000 ล้านบาท เพื่อทำการทดสอบและผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายในเดือนมกราคมปีหน้า
เงินทุนดังกล่าว ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการทดลองวัคซีนในเฟส 3 ซึ่งจะเป็นขั้นสุดท้ายสำหรับการทดลองในมนุษย์ โดยอาจเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ถือเป็นวงเงินสนับสนุนสูงสุดจากรัฐบาลสหรัฐในโครงการ “Operation Warp Speed” เพื่อเร่งการผลิตวัคซีนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
