ตลาดหุ้นเอเชีย เคลื่อนไหวช่วงเช้าวันนี้ (30 มิ.ย.) ปรับตัวสูงขึ้น หลังจีนเผยข้อมูลภาคการผลิต เดือนมิถุนายน ขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้เกิดความหวังว่า เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มฟื้นตัว หลังเจอผลกระทบอย่างหนัก จากการระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 22,381.22 จุด ปรับขึ้นมา 386.18 จุด หรือ 1.76% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงที่ 24,496.91 จุด เพิ่มขึ้น 195.63 จุด หรือ 0.81% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน ที่ 2,972.16 จุด ขยับขึ้น 10.64 จุด หรือ 0.36%และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 2,598.17 จุด บวก 24.07 จุด หรือ 0.94%
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) ที่ 25,595.80 จุด เพิ่มขึ้น 580.25 จุด หรือ 2.32% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,053.24 จุด เพิ่มขึ้น 44.19 จุด หรือ 1.47% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 9,874.15 จุด เพิ่มขึ้น 116.93 จุด หรือ +1.20%
จีนรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิถุนายน ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.9 จากระดับ 50.6 ในเดือนพฤษภาคม และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนเดียวกัน ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 54.4 จากระดับ 53.6 เมื่อเดือนที่แล้ว
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 44.3% เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ NAR เริ่มทำการเก็บรวบรวมข้อมูลในเดือนมกราคม 2544 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 15%
ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า รัฐต่างๆ ในสหรัฐจะไม่ออกมาตรการล็อกดาวน์เป็นวงกว้าง เนื่องจากจะส่งผลให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้า แม้ว่ายอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม
