Politics

‘สัมฤทธิ์’ หนุนตั้งกมธ.วิสามัญติดตามเงินกู้ 1.9 ล้านล้าน

“สัมฤทธิ์” เห็นด้วยตั้ง กมธ.วิสามัญติดตามเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ฝากดูแลประชาชน ที่ตกหล่นไม่ได้รับสิทธิ์จากการเยียวยา

นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ เขต 3 กล่าวถึงญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกู้ 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ว่า พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจจำนวน 1 ล้านล้านบาท ซึ่ง พ.ร.ก.นี้กำหนดไว้ 3 แผนงาน โดยแผนงานแรกไม่มีอะไรต้องตรวจสอบเพราะเป็นการตั้งงบประมาณเพื่อเข้าไปเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่รัฐบาลออกมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ช่วยเหลือเยียวยาไปแล้วเกือบ 30 ล้านคน  เป็นกลุ่มอาชีพต่างๆเกือบ 16 ล้านคน กลุ่มเกษตรกรเกือบ 10 ล้านคน และกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มเด็กแรกเกิด กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการ เกือบ 7 ล้านคน เป็นงบประมาณที่จับใส่มือจับใส่กระเป๋าให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

สัมฤทธิ์
ส่วนที่สอง เป็นงบประมาณเกือบ 45,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณส่งเสริมเข้าไปในกระทรวงสาธารณสุขเพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ได้แก่ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยารักษาโรค วัคซีน และการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ อสม. และในส่วนแผนงานที่สาม คือ งบฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ส่วนนี้ต้องขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคนที่ได้ตั้งข้อสังเกตและกังวลต่อความโปร่งใสและมาตรการในการดำเนินงาน ในส่วนนี้ต้องนำเรียนว่ามาตรการการตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐก็มีหลายช่องทางที่ดำเนินการตรวจสอบอยู่รวมถึงการตรวจสอบของหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐ  ในส่วนนี้เป็นเรื่องที่พวกเราต้องเข้าไปช่วยกันติดตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และคุ้มค่ามากที่สุด

ส่วน พ.ร.ก.ฉบับที่สอง ที่เข้าไปช่วยวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้มีสภาพคล่องในการเพิ่มเติมสินเชื่อ และยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ออกไป ในวงเงินอีก 5 แสนล้านบาท เป็นสิ่งที่ต้องนำเรียนว่า ถ้าปล่อยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีปัญหาในการดำเนินธุรกิจซึ่งเป็นธุรกิจฐานรากก็จะนำปัญหามาสู่ประเทศแน่นอน โดยเฉพาะปัญหาเรื่องของการจ้างงาน และ พ.ร.ก.ฉบับที่สาม ในวงเงิน 4 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลจะเข้าไปเสริมสภาพคล่องเรื่องตราสารหนี้ เรื่องของหุ้นกู้ กับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ

สภา27212
นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่าเห็นด้วยกับมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจะออกมา หากเราดูผลลัพธ์จากตัวเลขผู้ติดเชื้อ ตัวเลขของผู้เสียชีวิตในประเทศของเราเทียบกับประเทศอื่น ๆ เราต้องยอมรับว่ามาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ออกมาประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง แต่ถ้ามองในภาพรวมที่เกิดขึ้น กับการกู้เงินของรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาลในชุดก่อน ๆ ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก แต่ถ้าเปรียบเทียบเงิน 1 ล้านล้านบาท กับความปลอดภัยในสุขภาพของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศเกือบ 70 ล้านคน ถือว่าไม่สูงเลยเพราะเกือบครึ่งหนึ่งนำไปเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ

นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่าเชื่อว่าทุก ๆ คนในสภาแห่งนี้มีแนวคิดไปในทางเดียวกัน ที่อยากให้การใช้งบประมาณของรัฐบาลตาม พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ เป็นไปด้วยความโปร่งใส รอบคอบ รัดกุม แต่ส่วนหนึ่งต้องเห็นใจรัฐบาล เพราะในห้วงเวลาที่เกิดขึ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะหยุดชะงัก  ความบอบช้ำที่จะเกิดขึ้นกับทั่วโลก เศรษฐกิจจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้คณะกรรมาธิการวิสามัญคณะนี้ ใช้เวลาในการตรวจสอบงบประมาณครั้งนี้ ขอให้ใช้เวลาไปดูเรื่องของประชาชนในกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงการเยียวยาของภาครัฐ ตกหล่น ไม่ได้รับสิทธิ์ เพื่อให้การดำเนินงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างทั่วถึงและครอบคลุม ขอให้ทุกคนคิดถึงประชาชนเป็นหลัก และขอให้สมาชิกทุกคนเห็นพ้องต้องกันในการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณจ่ายเงินกู้ 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight